Capacity Utilization หรือการใช้กำลังการผลิต เป็นตัวชี้ระดับเปอร์เซ็นต์ทางเศรษฐกิจ ในด้านของกาคอุตสาหกรรม เกี่ยวกับการผลิตสินค้าและบริการ
มีการติดตามปริมาณการผลิตในส่วนของการดำเนินการผลิต ตั้งแต่กระบวนการผลิตของเครื่องจักรไปจนถึงทรัพยากรที่มีอยู่ ซึ่งตรงนี้เองจะทำให้เราทราบถึงข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญ โดยภาพรวมของเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพของการจัดสรรในด้านของการใช้ทรัพยากร รวมถึงความเป็นไปได้ของแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
ทำความรู้จักกับ การใช้กำลังการผลิต(Capacity Utilization)
การใช้กำลังการผลิต(Capacity Utilization)
เป็นการวัดกำลังทางผลิตในด้านของอุตสาหกรรมและปริมาณการใช่ทรัพยากรของประเทศ โดยมีการคำนวณ โดยการหารผลผลิตที่แท้จริงของเศรษฐกิจด้วยจำนวนผลผลิตที่เป็นไปได้ จากนั้นให้นำผลลัพธ์ไปคูณด้วย 100 เพื่อที่เราจะได้ตัวเลขเป็นเปอร์เซ็นต์ ในส่วนของผลผลิตที่เป็นไปได้นั้นหมายถึง ระดับสูงสุดของผลผลิตที่เศรษฐกิจสามารถดำรงอยู่ได้โดยไม่สร้างแรงกดดันในด้านของเงินเฟ้อ
การใช้กำลังในการผลิตมีความสำคัญอย่างมาก ในด้านของการวัดประสิทธิภาพ ของบริษัทในแง่ของการใช้ทรัพยากร รวมถึงในด้านของการวางแผนสำหรับอนาคต
3 ภาคส่วนหลักที่สำคัญในการสนับสนุนการใช้กำลังในการผลิต ดังนี้:
1. การผลิต: การผลิตจะรวมถึงการผลิตสินค้าทั้งแบบคงทนและไม่คงทน ยกตัวอย่างเช่น ยานพาหนะ เครื่องจักร และสินค้าอุปโภคบริโภค
2. การทำเหมืองแร่: การทำเหมืองแร่จะคลอบคลุมถึงในส่วนของการสกัดแร่ แร่ รวมถึงทรัพยากรทางธรรมชาติอื่น ๆ
3. สาธารณูปโภค: ในส่วนของตรงนี้จะคลอบคลุมไปถึงการผลิตไฟฟ้า ก๊าซ และน้ำ
การใช้กำลังการผลิต มักจะใช้ร่วมกันกับตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น การผลิตในภาคอุตสาหกรรมซึ่งจะเป็นตัววัดผลผลิตที่แท้จริงของภาคส่วนต่าง ๆ ภายในระบบเศรษฐกิจ
วิธีการอ่านอัตราการใช้กำลังในการผลิต
การใช้กำลังการผลิตโดยทั่วไปแล้ว จะแสดงในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์รายเดือนที่มีการปรับตามฤดูกาล ซึ่งจะสามารถช่วยให้เราเปรียบเทียบแนวโน้มในช่วงเวลาต่าง ๆ ได้อย่างง่าย
โดยการใช้กำลังการผลิตที่ 85% ขึ้นไป จะถือเป็นสัญญาณของสภาวะเงินเฟ้อที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ในการวัดกำลังการผลิตทางอุตสาหกรรมก็ไม่สามารถใช้หลักเกณฑ์นี้เป็นตัววัดเพียงอย่างเดียวได้
เมื่อวิเคราะห์รายงาน จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ :
- Sector performance (ประสิทธิภาพของภาคส่วน): ดัชนีในการวัด จะสามารถแบ่งตามภาคส่วนได้ เพื่อในการวิเคราะห์จะสามารถวิเคราะห์ในเชิงลึกของอุตสาหกรรมเฉพาะและผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจโดยรวมได้มากขึ้น
- Cyclical trends (การเปลี่ยนแปลงหรือความผันแปรทางวัฏจักร): ในการใช้กำลังการผลิต จะขึ้นอยู่กับความผันแปรทางวัฏจักรในบางครั้ง ซึ่งตรงนี้นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากในการตรวจสอบแนวโน้มในระยะยาวหรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เพื่อที่ทำให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี รวมถึงส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจ การเงิน หรือตลาดทุนได้
- External factors (ปัจจัยภายนอก): ภาวะเศรษฐกิจโลก นโยบายทางการค้า รวมถึงปัจจัยภายนอกอื่น ๆ นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อการใช้กำลังการผลิต ดังนั้นเราจำเป็นต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ด้วยเมื่อมีการวิเคราะห์หรือตีความข้อมูล
Tradingeconomics.com
ทำไมการใช้กำลังการผลิต(Capacity Utilization) จึงมีความสำคัญ
การใช้กำลังการผลิต(Capacity Utilization) มีความสำคัญด้วยสาเหตุหลากหลายประการเช่น:
1.สภาวะทางเศรษฐกิจ: การใช้กำลังการผลิตเมื่อมีการเปลี่ยนเกิดขึ้น จะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกที่การเปลี่ยนแปลงสภาวะทางเศรษฐกิจโดยภาพรวม เป็นผลเนื่องมาจากการใช้ประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น ตรงนี้เป็นตัวบ่งบอกถึงความต้องการทางสินค้าและบริการมากขึ้น เช่นเดียวกันในขณะที่การใช้ประโยชน์ลดลง เป็นตัวบ่งบอกถึงสภาวะทางเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลง
2.แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ: การใช้กำลังการผลิตในระดับที่สูงขึ้น เป็นตัวนำไปสู่แรงกดดันในสภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นตามมา เนื่องมาจากธุรกิจบางกรณีอาจขึ้นราคาเนื่องจากกำลังการผลิตสำรองที่จำกัดหรือมีต้นทุนทางด้านการผลิตที่เพิ่มขึ้น
3.การตัดสินใจลงทุน: นักลงทุนและนักธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลการใช้กำลังการผลิตเพื่อนำไประบุแนวโน้มและประเมินประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมเฉพาะได้ เพื่อที่จะนำไปเป็นแนวทางในการตัดสินใจรวมถึงการลงทุนและการจัดสรรทรัพยากรได้
ผู้เผยแพร่การใช้กำลังการผลิต(Capacity Utilization)
Federal Reserve ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาและหน่วยงานสถิติระดับชาติในประเทศอื่น ๆ เป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลในด้านการใช้กำลังการผลิต เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยที่ข้อมูลจะถูกรวบรวมผ่านการสำรวจรวมถึงแหล่งที่มาอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น บันทึกการผลิตและการขนส่งจากโรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค
กำหนดการเผยแพร่ข้อมูลการใช้กำลังการผลิต(Capacity Utilization)
ข้อมูลการใช้กำลังการผลิต จะถูกเผยแพร่ในทุกเดือน โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในช่วงเวลาประมาณกลางเดือนถัดไปจากรอบระยะเวลาของการรายงาน โดยข้อมูลดังกล่าวจะอยู่ในเว็บไซต์ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา รวมถึงผ่านสำนักข่าวทางการเงินและผู้ให้บริการข้อมูลต่าง ๆ โดยสามารถติดตามไปหลากหลายช่องทาง
สรุปโดยภาพรวมแล้วการใช้กำลังการผลิต(Capacity Utilization) จะเป็นจำนวนการผลิตของบริษัทที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดนจะวัดการใช้กำลังการผลิตมีความสำคัญอย่างมากทั้งสำหรับการวัดประสิทธิภาพของบริษัทในแง่ของการใช้ทรัพยากร และการวางแผนสำหรับอนาคตซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจเกี่ยวกับการสั่งซื้อการผลิตในระยะยาว