Equity คืออะไร

Equity คืออะไร

“Equity” หรือ “มูลค่าสุทธิ” ในบริบทของการเทรดหุ้น สินทรัพย์ทางการเงิน หรือการลงทุนอื่น ๆ คือ มูลค่าของทรัพย์สินของหลังจากหักค่าหนี้และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ออกไปแล้ว ในเชิงบัญชี คำนี้มักใช้เพื่ออธิบายส่วนของเจ้าของทรัพย์สินหรือผู้ถือหุ้นในธุรกิจหรือองค์กร หรือในทางการลุงทุน Equity คือ มูลค่าสุทธิของบัญชีเทรด หรือเงินที่จะได้รับหากปิดทั้งหมดของสัญญาหรือตำแหน่งที่เปิดอยู่ในขณะนั้น

สูตรคำนวณ Equity ในบัญชีเทรด ดังนี้

  • Equity = Balance + จำนวนเงินของพอร์ตที่เป็นบวก – จำนวนเงินของพอร์ตที่ติดลบ

ความหมายของสูตร

  • Balance คือ ยอดเงินที่มีอยู่ในบัญชี ไม่รวมถึงผลกำไรหรือขาดทุนจากตำแหน่งที่เปิดอยู่
  • จำนวนเงินของพอร์ตที่เป็นบวก คือ ผลกำไรจากตำแหน่งที่เปิดอยู่
  • จำนวนเงินของพอร์ตที่ติดลบ คือ ขาดทุนจากตำแหน่งที่เปิดอยู่

รวมแล้ว Equity จะเป็นการบ่งบอกถึงสถานะทางการเงินทั้งหมด ในบัญชีเทรด ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจเกี่ยวกับว่าควรจะเปิดตำแหน่งใหม่ ปิดตำแหน่ง หรือรักษาตำแหน่งที่มีอยู่

ซึ่งสำหรับ “Available Margin” มันเป็นอีกคำศัพท์ที่ใช้ เพื่อบ่งบอกถึงเงินที่มีอยู่และสามารถใช้เปิดตำแหน่งใหม่ได้ ซึ่งคำนี้อาจจะไม่เหมือนกับ Equity ทั้งหมด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและกฎระเบียบของโบรกเกอร์ที่ใช้งานด้วย

Equity คืออะไร ในการเทรด Forex

Equity ในการเทรด Forex คือ มีความหมายไม่ต่างจาก Equity ที่เป็นพื้นฐานหลักการลงทุนของสินทรัพย์ในทุกๆอย่างนั้นเอง เรียกได้ว่า เป็นมูลค่าสุทธิของบัญชีเทรดคำนวณจากยอดเงินสดที่มีอยู่ในบัญชี (Balance) บวกด้วยผลกำไรหรือขาดทุนที่ยังไม่ได้ปิดตำแหน่ง (Unrealized Profit/Loss) หากเปิดหลายตำแหน่งหรือมีหลายสกุลเงินในบัญชี Equity จะเป็นตัวบ่งชี้ที่รวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน

ข้อมูลจาก Equity มักใช้ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเปิดหรือปิดตำแหน่ง ปรับขนาดตำแหน่ง หรือจัดการความเสี่ยง ทั้งนี้ Equity ยังเป็นค่าพื้นฐานในการคำนวณความต้องการเงินประกัน (Margin Requirement) และป้องกันจากการได้รับ Margin Call ที่อาจจะบังคับให้ปิดตำแหน่งในราคาที่ไม่ดีหรือเติมเงินเพิ่มเข้าไปในบัญชี เพื่อคงสภาพของบัญชีให้ยั่งยืน ดังนั้น การที่รู้ถึง Equity จะเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเทรด Forex ไม่ว่าจะเป็นในระยะสั้นหรือระยะยาว

Equity คืออะไร ในการเทรด Forex

ในบริบทของการเทรด

  • Balance: ยอดเงินที่มีอยู่ในบัญชีของเทรดเดอร์ ไม่รวมถึงผลกำไรหรือขาดทุนจากตำแหน่งที่เปิดอยู่
  • Unrealized Profit/Loss: ผลกำไรหรือขาดทุนที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน ซึ่งมาจากตำแหน่งที่ยังไม่ได้ปิด
  • Realized Profit/Loss: ผลกำไรหรือขาดทุนที่ได้รับการยืนยัน ซึ่งมาจากตำแหน่งที่ได้ปิดแล้ว

สูตรคำนวณ Equity ในการเทรด

  • Equity = Balance + Unrealized Profit/Loss

ทำไม Equity ถึงสำคัญ?

Equity หรือ มูลค่าสุทธิ สำคัญในการเทรดหรือการลงทุนเพราะมันเป็นตัวบ่งชี้ที่แสดงถึงสถานะทางการเงินของเทรดเดอร์ในบัญชีเทรดหรือในการลงทุนอย่างรวดเร็วและชัดเจน ข้อมูลจาก Equity สามารถใช้ในการตัดสินใจเกี่ยวกับว่าควรจะเปิดตำแหน่งใหม่ ปิดตำแหน่งที่มีอยู่หรือรักษาตำแหน่ง ข้อมูลนี้ยังช่วยให้เข้าใจถึงความเสี่ยงและความเป็นไปได้ในการได้รับผลตอบแทน

นอกจากนี้ Equity ยังเป็นปัจจัยหนึ่งในการคำนวณ Margin Requirement หรือ ยอดเงินที่ต้องใช้เป็นหลักประกันเมื่อเทรดในรูปแบบของ Margin Trading ทำให้สามารถป้องกันการได้รับ Margin Call หรือการที่โบรกเกอร์จะบังคับให้เติมเงินหรือปิดตำแหน่งเพื่อคืนหนี้ ดังนั้น การเข้าใจและติดตาม Equity เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากในการจัดการความเสี่ยงและในการตัดสินใจทางการเงิน

  • การจัดการความเสี่ยง: มูลค่า Equity จะช่วยให้เข้าใจถึงความเสี่ยงที่กำลังจะต้องรับ และสามารถปรับปรุงแผนการลงทุนของ
  • Margin Requirement: ในการเทรดแบบใช้งาน Margin หรือหนี้ยืม เข้าใจถึง Equity ของเทรดเดอร์จะช่วยหลีกเลี่ยงการได้รับ Margin Call
  • ประสิทธิภาพการลงทุน: Equity จะแสดงถึงผลของการลงทุนของเทรดเดอร์ในระยะยาว ทั้งในเชิงของผลกำไรและขาดทุน

วิธีดู Equity

การใช้ Equity ในการเทรด Forex

การใช้ Equity ในการเทรด Forex มีหลายวิธีและสำคัญอย่างยิ่งในการจัดการความเสี่ยง และปรับปรุงประสิทธิภาพการเทรดของ ดังนี้

การจัดการความเสี่ยง

  • สามารถใช้ Equity เป็นฐานในการคำนวณขนาดตำแหน่งเทรด เพื่อไม่ให้เกินความเสี่ยงที่กำหนด ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดความเสี่ยงไม่เกิน 2% ของ Equity ในการเทรดครั้งหนึ่ง ก็ควรเปิดตำแหน่งที่ขนาดไม่เกินนั้น

การป้องกัน Margin Call

  • Equity ถือเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบสถานะบัญชีของ หาก Equity ลดลงอย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องประเมินและปรับปรุงแผนการเทรด เพื่อป้องกันการได้รับ Margin Call

การปรับแผนการเทรด

  • การติดตามการเปลี่ยนแปลงของ Equity สามารถให้ข้อมูลถึงประสิทธิภาพของแผนการเทรด หาก Equity ของมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นหมายความว่าแผนการเทรดของอาจจะมีประสิทธิภาพ

การเปรียบเทียบประสิทธิภาพ

  • หากมีบัญชีเทรดหลายบัญชี สามารถใช้ Equity ในแต่ละบัญชีเป็นเครื่องมือเปรียบเทียบประสิทธิภาพการเทรด ซึ่งจะช่วยให้เห็นถึงบัญชีไหนที่ต้องปรับปรุง

การพิจารณาความต้องการ Margin

  • Equity ยังเป็นค่าพื้นฐานในการคำนวณความต้องการเงินประกัน (Margin Requirement) การรักษา Equity ให้สูงจะช่วยให้สามารถเปิดตำแหน่งใหม่ๆ และยังคงบัญชีให้ยั่งยืน

ตัดสินใจเกี่ยวกับการเพิ่มหรือถอนเงิน

  • ผลของ Equity ที่เปลี่ยนแปลงอาจเป็นสัญญาณที่ชัดเจนในการตัดสินใจเกี่ยวกับว่าควรจะเพิ่มเงินเข้าบัญชีหรือถอนเงินออก

Equity กับ Balance ต่างกันอย่างไร

Balance Equity
ยอดเงินสดในบัญชี ยอดเงินสดรวมถึงผลกำไรหรือขาดทุนจากตำแหน่งที่ยังไม่ปิด
Balance = ยอดเงินฝาก – ยอดถอน Equity = Balance + ผลกำไร/ขาดทุนจากตำแหน่งที่ยังไม่ปิด
เมื่อมีการฝาก/ถอนเงิน เมื่อมีการเปิด/ปิดตำแหน่ง หรือมีการเคลื่อนไหวของราคา
ใช้เป็นพื้นฐานของการเทรด ใช้ในการจัดการความเสี่ยงและคำนวณขนาดตำแหน่ง
ไม่มีโดยตรง ถ้า Equity ต่ำไป อาจรับ Margin Call
ค่อนข้างคงที่ ถ้าไม่มีการฝากหรือถอน แปรปรวนอย่างรวดเร็วตามการเคลื่อนไหวของตลาด

ตัวอย่าง Equity

ยกตัวอย่างเช่น ถ้ายอด Balance คือ 1,000 ดอลลาร์ และมีตำแหน่งที่ยังไม่ได้ปิดที่กำลังขาดทุน 50 ดอลลาร์ ยอด Equity จะเป็น 950 ดอลลาร์

ตัวอย่าง Balance

หากฝากเงิน 1,000 ดอลลาร์เข้าบัญชี และไม่มีการเปิดตำแหน่งใด ๆ ยอด Balance ก็จะเป็น 1,000 ดอลลาร์ นั้นเอง

ตัวอย่างของ Equity

ตัวอย่างของ Equity ในบริบทของการเทรด Forex สามารถอธิบายได้ดังนี้

  • Balance: สมมติว่ามียอดเงินในบัญชี Forex อยู่ $10,000
  • Unrealized Profit/Loss:
    • มีตำแหน่งเทรด EUR/USD ที่ยังไม่ได้ปิด และตอนนี้กำลังขาดทุนอยู่ $500
    • ยังมีตำแหน่งเทรด USD/JPY ที่ยังไม่ได้ปิด และตอนนี้กำลังได้กำไร $300
  • Realized Profit/Loss: ไม่มี หรือ $0 (ไม่ได้ปิดตำแหน่งใด ๆ)

การคำนวณ Equity

Equity = Balance + (Unrealized Profit/Loss)

= $10,000 + (-$500 + $300)

= $10,000 + (-$200)

= $9,800

ดังนั้น ณ ขณะนี้ Equity หรือ มูลค่าสุทธิ ของบัญชีเทรด Forex คือ $9,800 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับเปลี่ยนตามสถานะของตำแหน่งเทรดที่ยังไม่ได้ปิด และจะเป็นตัวชี้วัดถึงสถานะทางการเงินของบัญชีเทรดในขณะนั้น

วิธีการดู Equity ใน MT4

ในโปรแกรม MetaTrader 4 (MT4) สามารถดู “Equity” ของได้โดยใช้ขั้นตอนต่อไปนี้

  • เปิด Terminal Window: หาก “Terminal Window” ยังไม่ถูกเปิด สามารถเปิดมันโดยคลิกที่ “View” ในเมนูบนของโปรแกรม แล้วเลือก “Terminal” หรือกด Ctrl+T
  • เลือก Tab ‘Trade’: ภายใน “Terminal Window” จะมีหลายแท็บให้เลือก ไปที่แท็บที่เรียกว่า “Trade”
  • หา Equity: จะเห็นหัวข้อ “Equity” อยู่ในส่วนของ “Terminal Window” ที่อยู่ภายใต้แท็บ “Trade” รายการนี้จะแสดงยอด Equity ณ ขณะนั้นของ ยอดเงินนี้จะรวมถึง Balance และผลกำไรหรือขาดทุนที่ยังไม่ได้เรียกคืนจากการเทรดที่เปิดอยู่
  • การอัพเดท: ข้อมูล Equity จะอัพเดทแบบเรียลไทม์ (หรือใกล้เคียง) ตามความเคลื่อนไหวของตลาด ตามภาพประกอบด้านล่างนี้

วิธีดู Equity ใน MT4

ข้อดีข้อเสีย Equity

ข้อดี Equity

  1. การรู้ Equity ที่แน่นอนจะช่วยให้จัดการความเสี่ยงในการเทรดได้มากขึ้น และหลีกเลี่ยงการทำให้บัญชีของเทรดเดอร์เสี่ยงต่อ Margin Call
  2. ใน Forex สามารถใช้ Equity เพื่อคำนวณขนาดตำแหน่งที่ควรเปิด ทำให้การเทรดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและอยู่ในระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  3. Equity สามารถใช้ประเมินผลการเทรดของ ถ้า Equity เพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่า ยอดเงินในบัญชีของกำลังเจริญเติบโต
  4. การรู้ถึง Equity ทำให้สามารถปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงแผนการเทรดได้ง่ายขึ้น
  5. ในกรณีของการเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็ว รู้ถึง Equity จะช่วยให้ตัดสินใจเร่งด่วนและรักษายอดเงินในบัญชี
  6. การรู้ Equity ช่วยให้สามารถแยกแยะเงินทุนในบัญชีของได้ อาทิ เงินที่อยู่ในตำแหน่งที่เปิดอยู่ และเงินที่เหลือใช้สำหรับเทรด
  7. ถ้ารู้ว่า Equity ของเทรดเดอร์คืออะไร สามารถวางแผนสำหรับการเทรดในระยะยาวได้ง่ายขึ้น
  8. ในบางกรณี การรู้ถึง Equity ทำให้สามารถวัดความสามารถในการเป็นทุน ว่ามีเพียงพอสำหรับการขยายตัวหรือไม่
  9. การรู้ถึง Equity ช่วยป้องกันการสูญเสียที่ไม่จำเป็น โดยสามารถใช้จุดหยุดขาดทุน (Stop Loss) ที่เหมาะสม
  10. หากมีข้อมูลเกี่ยวกับ Equity จะสามารถทบทวนและปรับปรุงแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการเทรดมากขึ้นในระยะยาว

ข้อเสีย Equity

  1. Equity สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้นักเทรดตัดสินใจผิดพลาดหรือละเลยความเสี่ยง
  2. ถ้าหนี้สินไม่ได้ถูกจัดการอย่างระมัดระวัง อาจส่งผลให้ Equity ลดลงอย่างรวดเร็ว
  3. อาจทำให้นักเทรดเกิดความเอี่ยวอ่อนที่จะเปิดตำแหน่งใหม่ๆ โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยง
  4. การคำนวณ Equity ที่ประกอบด้วยหลายตัวประสิทธิ์อาจทำให้การจัดการมันซับซ้อนและยุ่งยาก
  5. บางครั้งนักเทรดอาจลืมนำค่าธรรมเนียมหรือค่าสเปรดไปรวมใน Equity
  6. Equity อาจไม่สะท้อนถึงจำนวนเงินสดที่สามารถถอนได้ หากยังมีตำแหน่งที่เปิดอยู่
  7. หาก Equity ต่ำ อาจเสี่ยงต่อการได้รับ Margin Call จากโบรกเกอร์
  8. บางคนอาจจะใช้ Equity สูงเป็นเหตุผลในการเทรดหนัก โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยง
  9. ค่าของ Equity มักจะเปลี่ยนแปลงตามระดับหนี้สินและการคำนวณ Margin ซึ่งอาจทำให้นักเทรดลืมดูความสัมพันธ์ระหว่างหนี้สินและทุน
  10. การมีส่วนรู้สึกดีเกินไปหรือตื่นเต้นเกินไปเมื่อ Equity ขึ้นอาจทำให้นักเทรดมองข้ามภาพรวมของแผนการเทรดและความเสี่ย