รีวิวโบรกเกอร์ LiteFinance ดีไหม ข้อดี ข้อเสีย จากประสบการณ์เทรดจริง

LiteFinance ดีไหม? มีใบอนุญาตที่น่าเชื่อถือหรือเปล่า? เคยโกงไหม? คนที่สนใจอยากเทรดที่นี่ เราอยากให้ทุกคนดูรายละเอียดต่อไปนี้ก่อนก่อนตัดสินใจ

Highlight

LiteFinance เป็นโบรกเกอร์ที่เปิดให้บริการมานานมากรวมแล้วก็ 20 ปี เพราะเริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 2005 ส่วนตัวแล้วโบรกเกอร์เจ้านี้ก็พอใช้ได้นะ แต่ยังไม่ได้น่าดึงดูดอะไรมากนัก

  • LiteFinance มีใบอนุญาตแค่ 2 ประเภท คือ CySec และ FCA ถึงแม้จะมีใบอนุญาตระดับสูงอย่าง CySec แต่ด้วยจำนวนใบอนุญาตที่น้อยเกินไปเลยทำให้ความน่าเชื่อถือยังไม่สุดเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่ก็เปิดให้บริการมาตั้ง 20 กว่าปีแล้ว น่าจะมีใบอนุญาตได้มากกว่านี้ จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้อีกเยอะเลย
  • การเทรดกับแพลตฟอร์มต่างๆ LiteFinance พบว่ามีความลื่นไหลดีมาก ออกออเดอร์ได้เร็วและไม่มีการปฏิเสธออเดอร์ ค่าสเปรดก็ไม่ถ่างจากเดิมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเทรดในช่วงปกติหรือเทรดในช่วงที่มีข่าวก็เหมือนกัน
  • ต้นทุนในการเทรดของ LiteFinance ค่อนข้างสูง ซึ่งบัญชีที่มีต้นทุนสูงสุดคือบัญชี Classic และบัญชี Cent ส่วนบัญชีที่มีต้นทุนต่ำสุดคือบัญชี ECN เพราะฉะนั้นก่อนที่ทุกท่านจะเปิดบัญชีเทรดต้องดูรายละเอียดตรงนี้ให้ดี จะได้ไม่พลาด
  • ระบบ Copy Trade ของ LiteFinance ส่วนตัวยังคิดว่าไม่ค่อยดึงดูดเท่าไหร่ แม้ว่าจะทำออกมาให้ใช้งานได้ง่ายและสวยงาม แต่ก็ยังขาดในเรื่องของตัวเลือกกลยุทธ์ที่รู้สึกว่าน้อยเกินไปแค่ 130 กว่ารายการเอง แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสในเรื่องนี้ก็สามารถใช้งานได้ดีเลยแหละ

หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อโบรกเกอร์ Litefinance มาก่อนไม่มากก็น้อย เพราะเปิดให้บริการมานานตั้ง 20 กว่าปี แต่ที่หลายคนยังไม่แน่ใจก็คือเปิดมานานขนาดนี้แล้วน่าใช้หรือเปล่า มีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน ถ้าท่านใดที่กำลังหาโบรกเกอร์เอาไว้เทรดและเล็งๆ โบรกเจ้านี้เอาไว้อยู่ เราอยากให้ทุกคนเข้ามาดูรายละเอียดให้ดีก่อน เพื่อจะได้ช่วยประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกด้วย ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลสำคัญเอาไว้ให้ทั้งหมดแล้ว

รายละเอียดสำคัญของโบรกเกอร์ LiteFinance

  • โบรกเกอร์: LiteFinance
  • Website: https://www.litefinance.org/th/
  • ปีก่อตั้ง : 2005
  • องค์กรกำกับดูแล: CySEC, FSC mauritius
  • ฝากขั้นต่ำ: 10 USD
  • ถอนขั้นต่ำ: 10 USD
  • ความเร็วฝากถอน : ฝาก : เข้าบัญชีทันที , ถอน : ใช้เวลา 50 นาที
  • เรทฝากถอน: -2.55%
  • ค่าคอมมิชชั่นการฝากเงิน : ไม่มี
  • ค่าคอมมิชชั่นการถอนเงิน : ไม่มี
  • Leverage: สูงสุด 1:1000
  • Spread: EURUSD 15, USDJPY 19, GBPUSD 16
  • แพลตฟอร์ม: MetaTrader 4, MetaTrader 5, cTrader, แอปมือถือ
  • Copy Trading: มี
  • Trading View: ไม่มี

ข้อมูล LiteFinance

ข้อมูลองค์กรและสำนักงาน

  • ปีที่ก่อตั้ง : 2005
  • สำนักงานใหญ่ : Euro House, Richmond Hill Road, P.O. Box 2897, Kingstown, VC0100, Saint Vincent and the Grenadines

ให้บริการเทรดอะไรบ้าง

  • Forex : ✓
  • ทองคำ : ✓
  • น้ำมัน : ✓
  • ดัชนี : ✓
  • สกุลเงินดิจิตอล : ✓
  • หุ้น : ✓
  • สินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ : ✓

ประเภทโบรกเกอร์ ZFX

  • LiteFinance เป็นโบรกเกอร์ประเภท No-Dealing Desks (NDD) โดยการส่งต่อราคาจากผู้ให้บริการสภาพคล่อง (liquidity providers) โดยตรงซึ่งไม่มีการแทรกแซงจากโบรกเกอร์

โบนัส/โปรโมชั่น

โปรโมชั่นของ LiteFinance มีทั้งหมด 2 โปรโมชั่นดังนี้

1.คืนค่าคอมมิชชั่นด้วย ZERO Fees

  • เป็นโปรโมชั่นที่จะคืนค่าคอมมิชชั่นให้กับสมาชิกเมื่อฝากเงินเข้าบัญชีเทรด

วิธีรับโปรโมชั่น

1.1) ฝากเงินเข้าบัญชีเทรดของคุณกับ LiteFinance อย่างน้อย 100 USD

1.2) ค่าธรรมเนียมในการฝากเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีของเราโดยอัตโนมัติ (คลิกดูรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติม)

2.Trade Smart Challenge

  • เป็นโปรโมชั่นเทรดอย่างชาญฉลาดในการทำภารกิจการเทรดให้สำเร็จตามเป้า
  • หากสามารถเทรดได้ตามเป้าและตรงตามเงื่อนไข เราจะได้รับเงินรางวัลเป็นเงินสดมูลค่า 50% ของยอดเงินที่เราได้ฝากเข้าบัญชี

วิธีรับโปรโมชั่น

1.1) หากคุณยังไม่ได้ลงทะเบียน ต้องทำการลงทะเบียนกับ LiteFinance ให้เสร็จก่อน

1.2) เปิดบัญชีซื้อขาย ECN MT4 เพื่อเข้าร่วมโปรโมชั่น

1.3) ฝากเงินเข้า 100 USD ขึ้นไปโดยใช้รหัสโปรโมชัน TRADESMART

1.4) เริ่มต้นซื้อขายตามโปรโมชั่น Trade Smart Challenge ตามกฎและเพิ่มการลงทุนของคุณอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง

1.5) ลุ้นรับรางวัลมูลค่าครึ่งหนึ่งของการลงทุนของคุณด้วยเงินจริง (คลิกดูรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติม)

ช่องทางการติดต่อ

LiteFinance มีช่องทางการติดต่อหลักทั้งหมด 3 ช่องทางคือ

  • ติดต่อผ่าน Live Chat
    • สังเกตสัญลักษณ์ที่มุมด้านล่างขวา ใช้เวลารอไม่นานแต่ต้องแชตเป็นภาษาอังกฤษ ใครไม่ถนัดก็อาจจะใช้กูเกิลแปลภาษาก็ได้เหมือนกัน เจ้าหน้าที่ก็สามารถเข้าใจได้
  • ติดต่อผ่าน E-Mail
    • ฝ่ายบริการลูกค้า clients@litefinance.com (เวลาทำการ 24/5 – ตั้งแต่ 00:00 น. วันจันทร์ ถึง 23:59 น. วันศุกร์)
    • ฝ่ายโปรแกรมพันธมิตร partner@litefinance.com (เวลาทำการ: 09:00 – 18:00 น. (จันทร์-ศุกร์))
    • ฝ่ายการตลาด marketing@litefinance.com (เวลาทำการ: 09:00 – 18:00 น. (จันทร์-ศุกร์))
    • ฝ่ายการดำเนินการซื้อขาย trading@litefinance.com (เวลาทำการ: 09:00 – 18:00 น. (จันทร์-ศุกร์))
    • ฝ่ายการเงิน clients@litefinance.com (เวลาทำการ: ตั้งแต่ 22:00 น. วันอาทิตย์ถึง 22:00 น. วันศุกร์)
  • หมายเลขโทรศัพท์
    • 063-516-8805

Platform การเทรด

  • MetaTrader 4

แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันดี ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย มีความเสถียร เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกระดับ รองรับการใช้งานบน Windows, Mac OS, iOS และ Android

  • MetaTrader 5

เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่มีการอัพเกรดเครื่องมือให้ใช้งานได้มากกว่า MT4 ได้รับความนิยมสูงขึ้น รองรับการใช้งานบน Windows,  Mac OS, iOS และ Android

  • cTrader

เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่มีหน้าตาที่ใช้งานง่าย มาพร้อมกับอินเตอร์เฟซมากมาย มีการดำเนินการที่รวดเร็ว รองรับการใช้งานบน Windows, Mac, IOS, Android และเว็บบราวเซอร์

  • แอปมือถือ

เป็นแอปมือถือที่พัฒนาโดย LiteFinance เอง สามารถดาวโหลดได้ทั้งาระบบ IOS และ Android

รีวิว LiteFinance

LiteFinance โบรเกอร์ที่เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 20 ปี ถือเป็นหนึ่งโบรกเกอร์ที่เปิดมานานที่สุด มีสินทรัพย์ให้เทรดเยอะกว่า 200 รายการ แต่ถ้ามาดูเรื่องของความน่าเชื่อถือแล้ว LiteFinance อาจจะยังไม่น่าเชื่อถือที่สุด เพราะได้รับใบอนุญาตแค่ 2 ใบ ทั้งที่เปิดให้บริการมา 2 ทศวรรษแล้ว พอเทียบกับโบรกเกอร์เจ้าอื่นที่เปิดมาพร้อมกัน LiteFinance ยังคุณภาพต่ำกว่าเยอะ

 แต่ในส่วนของการเทรดบนแพลตฟอร์มต่างๆ จากที่ได้ลองก็พบว่ามีความลื่นไหลดี ไม่เจอปัญหาอะไรเลย เปิดออเดอร์ได้เร็ว ไม่มีการปฏิเสธ สเปรดไม่ถ่าง ต้นทุนการเทรดอยู่ในระดับที่ต่ำ มีบัญชีเทรดให้เลือกเหมาะกับเทรดเดอร์ทุกระดับ รวมถึงบัญชี Cent ที่เหมาะกับคนมีงบน้อย ฝากเงินขั้นต่ำเพียง 10 USD การฝากถอนสะดวกมาก ไม่ต้องรอนาน ฝากเสร็จเงินเข้าทันที

ส่วนเรื่องการใช้งานอื่นๆ ก็มีทั้งดีบ้าง แย่บ้าง อย่างระบบ Copy Trade เท่าที่ได้ลองก็พบว่าของ LiteFinance ใช้งานง่ายเลย ไม่ต้องสมัครเพิ่มเติม เราสามารถเข้าไปใช้งานผ่านหน้าจัดการบัญชีของเราได้ทันที แต่ที่ไม่ค่อยประทับใจอย่างหนึ่งของโบรกเกอร์เจ้านี้ก็คือ ไม่มีซัพพอร์ตคนไทย จึงไม่สะดวกเท่าที่ควรในการติดต่อ แล้วโปรโมชั่นก็มีน้อยเกินไป แถมเป็นโปรโมชั่นที่ไม่น่าสนใจด้วย

ข้อดีและข้อเสีย ของโบรกเกอร์ LiteFinance

ข้อดี

  • เปิดให้บริการมานาน LiteFinance เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2005 รวมแล้วมีอายุกว่า 20 ปี ถือว่าเป็นโบรกเกอร์ที่เปิดให้บริการมานานที่สุดของโลกอีกเจ้าหนึ่งในโลก
  • เทรดสินทรัพย์ได้หลายประเภท ได้แก่ Forex, คริปโตเคอเรนซี่, พลังงาน, หุ้น และดัชนี รวมแล้วมีสินทรัพย์ให้เทรดกว่า 200 รายการ
  • มีใบอนุญาตระดับสูงอย่าง CySEC  ทำหน้าที่กำกับดูแลเกี่ยวกับโบรกเกอร์และนักลงทุนโดยตรง เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยในเรื่องของความปลอดภัยและความโปร่งใสของโบรกเกอร์
  • มีแพลตฟอร์มการเทรดมาตรฐาน แพลตฟอร์มของ LiteFinance มีแพลตฟอร์มให้เลือกใช้งานอยู่ 4 แพลตฟอร์มหลักๆ ได้แก่ MetaTrader 4, MetaTrader 5, cTrader และแอปมือถือ ทุกแพลตฟอร์มใช้งานได้ดีและเสถียร เสียงจากผู้รีวิวบอกเหมือนกันว่าแทบไม่มีปัญหาเลย
  • มีบัญชีฟรีสวอป คนที่ไม่อยากเสียค่าสวอปหรือคนที่นับถือศาสนาอิสลามสามารถเข้ามาเทรดกับ LiteFinance ได้
  • เป็นโบรกเกอร์ประเภท A-Book หมายความว่าคำสั่งซื้อของเราจะถูกส่งไปยังผู้ให้บริการสภาพคล่อง (Liquidity Provider) โดยตรง เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องของการแทรกแซงจากททางโบรกเกอร์
  • ให้ Leverage สูง LiteFinance ให้ Leverage สูงสุดถึง 1:1000 คนที่ชอบเทรดแบบใช้ Leverage น่าจะชอบตรงจุดนี้
  • ค่าคอมมิชชั่นต่ำ ค่าคอมมิชชั่นในการเทรดจะมีเฉพาะบัญชี ECN โดยค่าคอมมิชชั่นจะอยู่ที่ $5/lot ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำพอสมควร ส่วนบัญชี Classic และบัญชี Cent ไม่มีค่าธรรมเนียม
  • กำหนดการฝากขั้นต่ำน้อย กำหนดการฝากขั้นต่ำของ LiteFinance อยู่ที่ 10 USD สำหรับบัญชี Cent ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน
  • มีบัญชี Cent ให้เลือก ตัวเลือกหรับคนงบน้อยแนะนำให้ใช้บัญชี Cent ได้เลย เพราะฝากเงินขั้นต่ำแค่ 10 USD เท่านั้น
  • มีข้อมูลให้เกี่ยวกับการเทรดให้เรียนรู้ ที่ LiteFinance มีบทความเกี่ยวกับการเทรดให้ได้ศึกษาฟรี ซึ่งเป็นประโยชน์ไม่น้อยเลยสำหรับคนที่เป็นมือใหม่
  • มีระบบ Copy Trade จุดเด่นของระบบการเทรดของ LiteFinance ใช้งานได้สะดวกและไม่ต้องสมัครใหม่ สามารถใช้งานผ่านทางหน้าจัดการบัญชีส่วนตัวของเราได้เลย

ข้อเสีย

  • ได้รับใบอนุญาตน้อย LiteFinance มีใบอนุญาตแค่ 2 ใบจาก 2 หน่วยงาน คือ CySec กับ FSC มอริเชียส ทั้งที่เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 20 ปี เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ที่เปิดมาพร้อมๆ กันถือว่าได้รับใบอนุญาตน้อยมาก
  • โปรโมชั่นน้อย คือมีแค่ 2 โปรโมชั่นให้เลือก แล้วก็ไม่ได้เป็นโปรโมชั่นที่น่าสนใจด้วย ไม่เป็นที่ดึงดูดใจของเทรดเดอร์ เรียกว่ามีก็เหมือนไม่มี
  • ซัพพอร์ตไม่รองรับภาษาไทย ถ้าต้องการคุยกับซัพพอร์ต ต้องคุยเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ทำให้ไม่สะดวกเท่าที่ควร แต่ถ้าใช้ Google แปลภาษาก็ไม่มีปัญหา
  • ไม่มีบริการฟรี VPS LiteFinance มี VPS ให้บริการเหมือนกันแต่ต้องจ่ายรายเดือน 15 USD/เดือน ไม่ได้มีบริการฟรี VPS เหมือนกับโบรกเกอร์หลายๆ เจ้า
  • คะแนนบน Trustpilot อยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น เท่าที่ได้ลองดูพบว่าคะแนนอยู่ในระดับปานกลาง แค่ 3.6/5 และรีวิวจากผู้ใช้งานหลายๆ คนเป็นไปในแง่ลบ ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจเท่าที่ควร
  • ไม่มีการแยกเงินลงทุนของลูกค้า LiteFinance ไม่มีการแยกเงินของลูกค้าออกจากบัญชีของบริษัท อีกอย่างโบรกเกอร์ก็ไม่ได้เป็นสาชิกของหน่วยงาน FCA ด้วย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมดูแลเรื่องการเงินของโบรกเกอร์
  • การยืนยันตัวตนค่อนข้างยุ่งยาก ต้องใช้เอกสารเยอะกว่าโบรกเกอร์เจ้าอื่น ส่วนใหญ่โบรกเกอร์อื่นๆ จะใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียว แต่โบรกเกอร์ LiteFinance ใช้เอกสารมากกว่า
  • เรทการฝาก-ถอนสูงไป เรทการฝาก-ถอนเงินของ LiteFinance อยู่ที่ -2.55% ซึ่งสูงกว่าหลายๆ โบรกเกอร์เลย ส่วนใหญ่ที่เจอจะไม่เกิน -1% แต่นี่ปาเข้าไปตั้ง -2% ถือว่าแพงมาก
  • Copy Trade ไม่ค่อยน่าใช้ จากที่ได้เข้าไปทดลองพบว่า หน้าตาของเค้าทำออกมาได้น่าใช้และใช้งานง่ายก็จริง แต่เรื่องของกลยุทธ์อันนี้ไม่ประทับใจเท่าไหร่ เพราะมีตัวเลือกให้เลือกแค่ 130 กว่ากลยุทธ์เองเทียบกับเจ้าอื่นไม่ได้เลย

LiteFinance ความน่าเชื่อถือและชื่อเสียง ดีไหม?

LiteFinance เป็นโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในระดับที่ถือว่าดีพอสมควร แต่ที่ยังไม่ประทับใจคือมีใบอนุญาตน้อยไปแค่ 2 ใบ

ปีก่อตั้ง : 2005

ใบอนุญาต (Regulator)

1. Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC)

2. Financial Services Commission (FSC mauritius)

สำนักงานใหญ่

  • Euro House, Richmond Hill Road, P.O. Box 2897, Kingstown, VC0100, Saint Vincent and the Grenadines

การคุ้มครองเงินทุนของลูกค้า

  • LiteFinance ไม่ได้มีการแยกเงินทุนของลูกค้าจากบัญชีของบริษัท ซึ่งถือว่าเสี่ยงที่จะทำให้เงินสูญหายหรือมีปัญหาอย่างอื่นตามมาได้
  • มีการป้องกันยอดเงินคงเหลือติดลบ

ประเภทบัญชีของ LiteFinance

LiteFinance มีบัญชีสำหรับเทรดทั้งหมด 3 ประเภท ซึ่งมีรายละเอียดต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • บัญชี ECN
  • บัญชี Classic
  • บัญชี Cent

1. บัญชี ECN

เป็นบัญชีที่เหมาะกับเทรดเดอร์มืออาชีพ มาพร้อมกับสเปรดที่ต่ำซื้อขาย รวมถึงต้องการอยากใช้บริการ Copy Trading แนะนำเลยว่าบัญชี ECN เหมาะกับคุณมากที่สุด

คุณสมบัติของบัญชี ECN

  • สเปรดลอยตัวจาก 0.0 จุด
  • มีค่าคอมมิชชั่น $5/lot
  • รองรับแพลตฟอร์ม MT4/MT5/cTrader
  • เลเวอเรจ 1:1000
  • สกุลเงินในบัญชี USD, EUR
  • ฝากขั้นต่ำ 50$
  • มีการป้องกันจากยอดเงินติดลบ

2. บัญชี Classic

บัญชีที่เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกระดับตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงเทรดเดอร์มืออาชีพ ซี่งบัญชี Classic ไม่มีการคิดค่าธรรมเนียม

คุณสมบัติของบัญชี Classic

  • สเปรดลอยตัวจาก 1.8 จุด
  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • รองรับแพลตฟอร์ม MT4/MT5
  • เลเวอเรจ 1:1000
  • สกุลเงินในบัญชี USD, EUR
  • ฝากขั้นต่ำ 50$

3. บัญชี Cent

เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่ที่มีงบน้อยและอยากลองเทรดจริงด้วยงบต่ำๆ แนะนำว่าบัญชี Cent เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะบัญชีประเภทนี้จะเทรดด้วยสกุลเงิน US Cent ซึ่งเทรดได้ปกตติเหมือนกับบัญชีประเภทอื่นทุกอย่าง

คุณสมบัติของบัญชี Cent

  • สเปรดลอยตัวจาก 3 จุด
  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • รองรับแพลตฟอร์ม MT4/MT5
  • เลเวอเรจ 1:1000
  • สกุลเงินในบัญชี USD-¢, EUR-¢
  • ฝากขั้นต่ำ 10$

เปรียบเทียบบัญชี

ดูรายละเอียดการ เปรียบเทียบบัญชีเพิ่มเติมที่นี่

บัญชีเทรดของ LiteFinance เลือกอันไหนดีสุด

  • แนะนำว่าควรเลือกบัญชี ECN จะดีที่สุดเพราะว่ามีค่าสเปรดที่ต่ำสุดเมื่อเทียบกับบัญชีประเภทอื่นๆ บัญชี ECN มีการคิดค่าธรรมเนียมอยู่ที่ $5/lot แต่สเปรดต่ำมากเฉลี่ย 0 pip เท่านั้น และเมื่อรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วถือว่าบัญชี ECN คุ้มค่าที่สุด

LiteFinance ค่าบริการ (Spread , Commission และ Swap)

LiteFinance ค่าบริการถูกหรือแพง? (spread, commission, swap)

  • ค่า spread เฉลี่ยของคู่เงินหลักของบัญชี ECN อยู่ที่ 0 USD/lot (มีคอมมิชชั่น $5/lot)
  • ค่า spread เฉลี่ยของคู่เงินหลักของบัญชี Classic อยู่ที่ 16 USD/lot (16 pips) (ไม่มีคอมมิชชั่น)
  • ค่า spread เฉลี่ยของคู่เงินหลักของบัญชี Cent อยู่ที่ 16 USD/lot (16 pips) (ไม่มีคอมมิชชั่น)
  • ค่า Swap ของคู่สกุลเงินหลักส่วนใหญ่เป็นลบ แต่ก็อยู่ในระดับที่ปานกลางไม่สูงมาก

ตัวอย่าง Spread ของ LiteFinance

บัญชี ECN มีค่าใช้จ่ายต่ำสุด ถ้าถามว่าควรเลือกบัญชีประเภทใด แนะนำว่าเลือกบัญชี ECN นะครับ

Spread+Commission เฉลี่ยบน 7 คู่สกุลเงินหลัก ของทาง LiteFinance

ค่า Commission บัญชีแต่ละประเภทของ LiteFinance

  • บัญชี ECN : มีคอมมิชชั่น ($5/lot)
  • บัญชี Classic: ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • บัญชี Cent: ไม่มีค่าคอมมิชชั่น

บัญชีไหนมีค่าใช้จ่ายต่ำสุด? (Spread+Commission)

  • บัญชี ECN มีค่าใช้จ่ายต่ำสุด
  • Spread ของคู่เงินหลัก 7 คู่ เฉลี่ย: 0 USD/Lot (0 pips)
  • Commission: 5 USD/Lot
  • Spread + Commission: 5 USD/Lot

ค่า Swap บน 7 คู่สกุลเงินหลักของทาง LiteFinance

สรุปการเทรดคู่เงิน Forex, ทอง และ คริปโต

เทรดคู่เงิน Forex

  • บัญชีที่เหมาะกับการเทรดคู่เงินแนะนำว่าควรเลือกบัญชี ECN จะดีที่สุด เพราะจากที่ได้ลองเปรียบเทียบต้นทุนการเทรดแล้วพบว่าบัญชี ECN ถูกสุด แค่ 5 USD/lot
  • ส่วนบัญชี Classic และบัญชี Cent มีค่าใช้จ่ายที่สูงถึง 16 USD/lot จึงไม่อยากแนะนำ 2 บัญชีนี้

เทรดทอง

  • บัญชีที่มีต้นทุนการเทรดทองที่ต่ำที่สุดคือบัญชี ECN มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 27 USD/lot ส่วนบัญชี Classic และบัญชี Cent มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 36 USD/lot เพราะฉะนั้นถ้าใครเป็นสายเทรดทองแนะนำเลือกบัญชี ECN ประหยัดการบัญชีอีก 2 ประเภทเยอะเลย
  • แล้วอีกอย่างค่า Swap ทองถ้าใครที่จะเล่นฝั่งซื้อนะ ต้องเสียค่าสวอปไปอีกถึง 54.26 ไม่รู้ว่าจะเยอะไปไหน

เทรดคริปโต

  • ถ้าจะเทรดคริปโตแนะนำว่าบัญชี ECN มีต้นทุนที่ต่ำสุดไม่เกิน 30 USD/lot ส่วนบัญชี Classic และบัญชี Cent มีค่าเฉลี่ยประมาณ 240 USD/lot ซึ่งแพงหู่ฉี่เลย
  • ค่า Swap ไม่ว่าจะเล่นหน้า Buy หรือ Sell ก็เสียเท่ากันอยู่ที่ประมาณ 25 USD/lot

ความเร็วในการเปิด/ปิด ออเดอร์

  • ความเร็วในการเปิดออเดอร์อยู่ที่ 262.29 ms (~262 วินาที)
  • ความเร็วในการปิดออเดอร์อยู่ที่ 204.84 ms (~204 วินาที)
  • ความเร็วในการตั้ง TP/SL อยู่ที่ 192.48 ms (~192 วินาที)

การฝากเงิน-ถอนเงิน

การฝากถอนเงินกับ LiteFinance มีช่องทางการฝากถอนที่ค่อนข้างสะดวกและรวดเร็วดีมาก ตั้งแต่เรื่องช่องทางของการฝากถอนที่หลากหลาย สามารถฝากผ่านธนาคารไทยได้ทุกธนาคาร รองรับการชำระผ่านการสแกน QR Code PromptPay เป็นต้น นอกจากนี้ก็มีการฝากเงินผ่าน บัตรธนาคาร, Tether (TRC20) และ STICPAY

ความเร็วและเรทในการฝากเงิน-ถอนเงิน

ความเร็วการฝากเงิน

  • จากประสบการณ์การฝากเงินของผม ในตัวอย่างนี้เป็นการฝากด้วยการ สแกน QR Code PromptPay ข้อดีก็คือไม่มีค่าธรรมเนียม และฝากเสร็จเงินเข้าบัญชีทันที!
  • ฝากเงิน $15 แปลงเป็นเงินไทยได้ 507.2 บาท

ความเร็วการถอนเงิน

  • ในตัวอย่างนี้ใช้วิธีการด้วยการ โอนเงินผ่านธนาคารไทย
  • ทำการถอนเงินจำนวน $15 (494.25 บาท)
  • ได้รับเงินเข้าบัญชี 494.25 บาท
  • ใช้เวลาในการถอนประมาณ 50 นาที

เรทการฝากถอนเงิน

  • ฝากไป 507.2 บาท ถอนได้ 494 บาท เท่ากับว่าเงินหายไป 12.95 บาท หรือคิดเป็น -2.55%

สรุปการฝาก-ถอนเงิน

  • การฝากเงิน : ฝากเสร็จเงินเข้าบัญชีในทันที (แนะนำว่าให้ฝากด้วยการสแกน QR Code PromptPay จะเร็วสุด)
  • การถอนเงิน : ใช้เวลา 50 นาที
  • เรทการฝากถอนเงิน : -2.55% (12.95 บาท)

ระบบคัดลอกการเทรด (Copy Trading)

LiteFinance มีระบบคัดลอกการเทรดที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย หน้าตาทำออกมาแล้วดูดีน่าใช้

ระบบ Copy Trade ของ LiteFinance ดูน่าใช้และใช้งานด้วย ถ้าไม่ติดเรื่องตัวเลือกกลยุทธ์ที่น้อยเกินไป ถือว่าน่าใช้เลยทีเดียว

Copy Trading ของ LiteFinance

  • ระบบการเทรดของ LiteFinance หน้าตาคล้ายกับระบบ Copy Trade ของโบรกเกอร์อื่นๆ แต่จะแตกต่างกันออกไปบ้าง การใช้งานดูคล้ายกัน ใช้งานง่าย

รายละเอียดการใช้งาน

  • จำนวนกลยุทธ์ที่เปิดให้ Copy: มากกว่า 137 กลยุทธ์
  • ระดับความง่ายในการใช้งาน: ประมาณ 4/10
  • การระบุความเสี่ยง : มีการระบุความเสี่ยง

ข้อดี

  • หน้าตาออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน มือใหม่ใช้งานได้ทันทีไม่งง
  • ไม่ต้องสมัครอะไรเพิ่มเติม เราเข้ามาที่หน้าจัดการบัญชีส่วนบุคคลของเราก็สามารถกดคัดลอกกลยุทธ์ที่เราสนใจได้เลย
  • มีรายละเอียดที่สำคัญต่อการตัดสินใจค่อนข้างครบ
  • สามารถเลือกคัดกรองกลยุทธ์ตามที่เราตั้งค่าได้ เช่น อยากจะได้กลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทนสูง, อยากได้กลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงน้อย เป็นต้น

ข้อเสีย

  • มีกลยุทธ์ให้เลือกน้อยไป คือมีแค่ 137 กลยุทธ์เท่านั้น ถ้าเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ดังๆ อย่าง Exness หรือ XM บอกเลยว่าเทียบกันไม่ได้ เพราะเขามีกลยุทธ์ให้เลือกมากกว่า 1000+ รายการ ซึ่งของ LiteFinance มีให้เลือกน้อยไป ถึงแม้จะทำมาน่าใช้ก็ยังดูไม่น่าสนใจอยู่ดี

บริการ VPS

  • LiteFinance มีบริการ VPS เหมือนกันแต่ *ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายเดือน $15 ต่อเดือน ไม่มีการให้บริการฟรีเหมือนโบรกเกอร์เจ้าอื่น

ความนิยม LiteFinance

LiteFinance เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับคะแนนรีวิวจากผู้ใช้งานทั่วโลกในระดับปานกลาง คะแนนรีวิวก็มีทั้งแง่ลบและแง่บวกพอๆ กัน ทั้งที่เปิดให้บริการมาตั้ง 20 ปีแล้ว คะแนนบน Trustpilot ก็ได้ Score สูงถึง 3.6/5 จากผู้รีวิว 350 คน ซึ่งถือว่าได้คะแนนค่อนข้างน้อยเลยเมื่อเทียบกับอายุของโบรกเกอร์ที่เปิดมานานขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมจากเทรดเดอร์ทั่วโลกสักเท่าไหร่

การติดตามบนโซเชียลมีเดียวค่อนข้างน้อยทั้งๆ ทีเปิดให้บริการมาตั้ง 20 ปี และคะแนนรีวิวบน Trustpilot ก็อยู่แค่ระดับปานกลางจึงไม่ดึงดูดใจเทรดเดอร์ให้เข้ามาเท่าไหร่

  • Trustpilot: [Score 3.6 (350 Review)]
  • Forex Peace Army: [Score 2.2 (226 Review)]
  • Facebook:  1.4 หมื่น การกดถูกใจ
  • Intragram: ผู้ติดตาม 17.9 พัน คน
  • Twitter(X): ผู้ติดตาม 12.1 พัน คน
  • Youtube: ผู้ติดตาม 1.35 หมื่น คน
  • Linkedin: ผู้ติดตาม 3 พัน คน

การบริการของ LiteFinance

การให้บริการของ LiteFinance จากที่ได้ลองสนทนากับเจ้าหน้าที่ก็พบว่าเจ้าหน้าที่ให้บริการดีรวดเร็วเลยไม่ต้องรอนาน รอไม่เกิน 1-2 นาทีก็มีเจ้าหน้าที่ตอบกลับมาแล้ว แต่ที่ไม่น่าประทับใจก็คือไม่มีเจ้าหน้าที่ซัพพอร์ตที่เป็นคนไทย ทำให้ลำบากในการใช้ภาษา ต้องมาคอยนั่งแปลภาษาอีก

  • ติดต่อผ่าน Live Chat
    • สังเกตสัญลักษณ์ที่มุมด้านล่างขวา ใช้เวลารอไม่นานแต่ต้องแชตเป็นภาษาอังกฤษ ใครไม่ถนัดก็อาจจะใช้กูเกิลแปลภาษาก็ได้เหมือนกัน เจ้าหน้าที่ก็สามารถเข้าใจได้
  • ติดต่อผ่าน E-Mail
    • ฝ่ายบริการลูกค้า clients@litefinance.com (24/5 – ตั้งแต่ 00:00 น. วันจันทร์ ถึง 23:59 น. วันศุกร์)
    • ฝ่ายโปรแกรมพันธมิตร partner@litefinance.com (ชั่วโมงการทำงาน: 09:00 – 18:00 น. (จันทร์-ศุกร์))
    • ฝ่ายการตลาด marketing@litefinance.com (ชั่วโมงการทำงาน: 09:00 – 18:00 น. (จันทร์-ศุกร์))
    • ฝ่ายการดำเนินการซื้อขาย trading@litefinance.com (ชั่วโมงการทำงาน: 09:00 – 18:00 น. (จันทร์-ศุกร์))
    • ฝ่ายการเงิน clients@litefinance.com (ชั่วโมงการทำงาน: ตั้งแต่ 22:00 น. วันอาทิตย์ถึง 22:00 น. วันศุกร์)
  • หมายเลขโทรศัพท์
    • 063-516-8805

รางวัลที่ได้รับ

LiteFinance ได้รับรางวัลจากสถาบันต่างๆ ทั่วโลกมาแล้วมากกว่า 30 รายการได้แก่

*ดูรางวัลทั้งหมดของ LiteFinance

ประสบการณ์การเทรดกับ LiteFinance

จากการที่ได้ลองเทรดกับ LiteFinance มีความรู้สึกว่า

  • ระบบการเทรดของ LiteFinance มีความลื่นไหลดี จะเป็นการเทรดในช่วงข่าวหรือในช่วงปกติก็ใช้งานได้ลื่นเหมือนกัน ยังไม่เจอการปฏิเสธออเดอร์เลยสักครั้ง ส่วนตัวแล้วชอบเทรดบนแพลตฟอร์ม MT5
  • สเปรดไม่ถ่างมากเท่าไหร่ แม้จะเป็นการเทรดในช่วงข่าวเลยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • บัญชี Classic มีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป อย่างต้นทุนในการเทรดทองค่าใช้จ่ายก็ปาเข้าไปกว่า 40 USD/lot แล้ว น่าจะสูงกว่าหลายๆ โบรกเกอร์เลย ถ้าใครจะเทรดทองแนะนำเทรดบนบัญชี ECN ดีกว่า
  • การใช้งานระบบ Copy Trade รู้สึกว่าใช้งานง่ายกว่าหลายๆ โบรกเกอร์อยู่เหมือนกัน แต่ที่ไม่ค่อยประทับใจก็คือมีตัวเลือกกลยุทธ์ต่างๆ ให้เลือกน้อยไป แค่ 137 รายการเอง เลยดูกร่อยๆ ไม่หวือหวาเหมือนโบรกเกอร์ดังๆ อย่าง XM หรือ Exness แต่ถ้าท่านใดไม่ซีเรียสก็ลองเข้าไปใช้งานดูได้

รีวิวจากผู้ใช้งานจริงกับโบรกเกอร์ LiteFinance

  • รีวิวจากผู้ใช้งานเว็บ trustpilot

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1.เงินฝากขั้นต่ำที่ LiteFinance คือเท่าไร?

  • LiteFinance กำหนดการฝากเงินขั้นต่ำที่ 10 USD หรือประมาณ 330 บาท

2. LiteFinance เสนอบัญชีเดโม่หรือไม่?

  • มี ทุกคนสามารถเข้าไปลองเทรดบัญชีเดโม่กับ LiteFinance ได้ เพียงแค่ลงทะเบียนให้เรียบแล้วก็เข้าไปเปิดบัญชีเดโม่แล้วลองเทรดด้วยตัวเองได้เลย

3. LiteFinance ปลอดภัยหรือไม่?

  • ปลอดภัยในระดับหนึ่งไม่ถึงกับมาก เพราะได้รับใบอนุญาตระดับสูงอย่าง CySec มาแล้ว แต่ที่แย่หน่อยก็คือ LiteFinance มีใบอนุญาตน้อยเกินไปแค่ 2 ประเภทเอง ส่วนตัวคิดว่าความน่าเชื่อถือยังไม่เท่ากับโบรกเกอร์ดังๆ ระดับท็อปๆ

4. LiteFinance เสนอเลเวอเรจอะไรบ้าง?

  • เลเวอเรจสูงสุดที่ทาง LiteFinance ให้อยู่ที่ 1:1000

5.ขนาดการเทรดขั้นต่ำของ LiteFinance อยู่ที่เท่าไหร่?

  • ขนาดการเทรดขั้นต่ำของ LiteFinance เริ่มต้นที่ 0.01 lot

6. LiteFinance มีบัญชีสำหรับคนนับถือศาสนาอิสลามหรือไม่?

  • มี ท่านใดที่สนใจเปิดบัญชีที่ไม่มีค่าสวอป สามารถเข้าไปเปิดได้ ที่นี่ แต่แนะนำว่าให้อ่านรายละเอียดให้ดีๆ ก่อนว่าบัญชีแต่ละประเภทเขามีเงื่อนไขอะไรบ้าง

7.มีบัญชีใดบ้างที่สามารถใช้แพลตฟอร์ม cTrader ได้

  • เฉพาะบัญชี ECN เท่านั้นที่สามารถเทรดบนแพลตฟอร์ม cTrader ได้ แต่ถ้าจะเทรดบน MT4 หรือ MT5 จะเปิดบัญชีประเภทใดก็ได้

8. LiteFinance มีบริการฟรี VPS หรือไม่?

  • ไม่มี ถ้าท่านใดอยากจะใช้ VPS ทาง LiteFinance ก็มีให้บริการเหมือนกัน แต่ว่าจะต้องเสียค่าธรรมเนียมรายเดือนอยู่ที่ 15 USD/ เดือน

9.การติดต่อกับเจ้าหน้าที่ซัพพอร์ตรองรับภาษาไทยหรือไม่?

  • ไม่ ถ้าจะคุยกับเจ้าหน้าที่ซัพพอร์ตของ LiteFinance ต้องติดต่อเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ดีหน่อยที่เจ้าหน้าที่ตอบกลับค่อนข้างเร็วไม่เกิน 2 นาที และให้บริการ 24 ชั่งโมงเลย

10.ระบบ Copy Trade ของ LiteFinance น่าใช้หรือไม่?

  • ส่วนตัวผมคิดว่าหน้าตาหน้าใช้พอสมควร แต่ที่ไม่ชอบคือตัวเลือกกลยุทธ์น้อย แค่ 130 กว่ารายการเท่านั้น คือเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ที่เปิดมาพร้อมมกันอย่าง Exness หรือ XM นี่ห่างกันคนละโลกเลย 2 เจ้านั้นเขาทำมาดีมาก มีตัวเลือกกลยุทธ์ให้เลือกกว่า 1000+ รายการ

สรุปภาพรวม LiteFinance

จากที่ได้ลองดูรายละเอียดของ LiteFinance และเข้าไปลองใช้งานดูในระดับหนึ่งพบว่าโบรกเกอร์เจ้านี้ก็น่าใช้อยู่บ้าง มีข้อดีที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน อย่างเรื่องของการเทรดที่ค่อนข้างลื่นไหลเหมือนกันทุกแพลตฟอร์ม อันนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีเลย และปัญหาเรื่องกราฟก็ไม่เจอ เช่น กราฟค้าง การออกออเดอร์ก็ทำได้เร็วดี หลายคนน่าจะถูกใจอันนี้

แต่ที่อยากแนะนำคนที่จะเข้ามาลองเทรดกับ LiteFinance ว่า ควรเลือกบัญชีเทรดให้ดีก่อนนะครับ เพราะว่าบัญชีแต่ละประเภทมีต้นทุนในการเทรดค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควร บัญชีที่มีต้นทุนการเทรดถูกสุดคือบัญชี ECN หากเลือกผิดบอกเลยว่าอาจจะทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายเยอะขึ้น กำไรที่จะได้ก็อาจจะลดลง แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสในเรื่องนี้ก็สามารถเลือกบัญชีได้ทุกประเภท

ส่วนเรื่องอื่นตั้งแต่การฝาก-ถอนเงินของ LiteFinance รู้สึกว่าทำออกมาได้ดี การทำรายการรวดเร็วสะดวก ฝากผ่าน QR Code ได้ แต่ที่รู้สึกว่าด้อยกว่าโบรกเกอร์อื่นๆ คือเรทการฝากถอนของเจ้านี้ค่อนข้างแพงกว่าหลายๆ เจ้า ปาเข้าไปตั้ง 2% กว่าๆ แต่ดีหน่อยที่กำหนดการฝากถอนน้อยแค่ 10 USD แล้วที่นี่เขาก็มีบัญชี Cent ให้เลือกด้วยนะ สายงบน้อยแนะนำเลยว่าบัญชีประเภทนี้ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด

อ้างอิง