FOMO (Fear Of Missing Out) คืออะไร
FOMO หรือ Fear of Missing Out คือ ความกลัวที่จะพลาดโอกาสหรือตกเทรนด์ ซึ่งในโลกของการเทรดหุ้นและ Forex ปรากฏการณ์นี้ค่อนข้างแพร่หลายและส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของเทรดเดอร์มากมาย ยุคสมัยที่เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันทำให้เราสามารถเห็นชีวิตและความสำเร็จของผู้อื่นได้ง่ายมากขึ้น และนี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าตัวเองกำลังพลาดโอกาสสำคัญ
FOMO ในการเทรดสามารถส่งผลกระทบต่อเทรดเดอร์หน้าใหม่ไปจนถึงเทรดเดอร์มืออาชีพ เป็นสาเหตุที่ทำให้เทรดเดอร์หลายคนกระโดดเข้าสู่การเทรดโดยไม่รอให้มีสัญญาณยืนยันที่ชัดเจน นอกจากนี้ยังส่งผลให้เทรดเดอร์ปิดคำสั่งเทรดเร็วเกินไป เพราะกลัวว่าจะพลาดโอกาสทำกำไร เรียกได้ว่าเป็นการ “ขายหมู” ซึ่งเป็นการปิดคำสั่งเทรดที่สามารถทำกำไรได้มากกว่านี้หากอดทนรอให้กราฟราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้
ดังนั้น การควบคุมอารมณ์และการมีวินัยในการเทรดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การตระหนักถึงความรู้สึก FOMO และการรับมือกับมันจะช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจได้ดีขึ้น สามารถรักษากำไรและลดความเสี่ยงจากการเทรดได้ ไม่ต้องรีบร้อนและกลัวว่าจะพลาดโอกาส ควรเน้นการวิเคราะห์และการศึกษาตลาดอย่างรอบคอบ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาวแทนที่จะเน้นทำกำไรระยะสั้นและเสี่ยงที่จะขาดทุนร่วมด้วย
ลักษณะเฉพาะ
คำว่า “FOMO” หรือ “Fear of Missing Out” เป็นคำที่ใช้เพื่ออธิบายความรู้สึกของความวิตกกังวลหรือความกลัวที่จะพลาดโอกาส หรือการไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมที่คนอื่นกำลังทำอยู่ ซึ่งในบริบทของการเทรดหุ้นหรือ Forex คำนี้หมายถึงความรู้สึกของความกลัวที่จะพลาดโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของตลาดหลักทรัพย์
FOMO มักส่งผลให้เทรดเดอร์กระทำการตัดสินใจที่ไม่รอบคอบ เช่น การรีบเข้าตลาดโดยไม่ได้วิเคราะห์หรือมีแผนการล่วงหน้า การกลัวที่จะพลาดโอกาสทำให้พวกเขาไม่สามารถมีสติและมองเห็นภาพรวมได้ นอกจากนี้ยังทำให้พวกเขามีความกลัวที่จะพลาดกำไรจนตัดสินใจปิดคำสั่งเทรดเร็วเกินไป
การรับมือกับ FOMO ในการเทรดสามารถทำได้โดยการศึกษาและวิเคราะห์ตลาดอย่างรอบคอบ การวางแผนการเทรดที่ชัดเจนและการมีวินัยในการทำตามแผน รวมถึงการควบคุมอารมณ์และการยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้
FOMO กับ การเทรด forex
FOMO (Fear of Missing Out) หรือความกลัวที่จะพลาดโอกาส คือ อาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน รวมถึงเทรดเดอร์ Forex โดยอาการ FOMO ในการเทรด Forex เกิดจากความกลัวที่จะพลาดโอกาสทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน
อาการ FOMO สามารถส่งผลต่อการตัดสินใจของเทรดเดอร์ได้ ทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดและขาดทุนได้ เพราะเทรดเดอร์อาจเข้าซื้อหรือขายโดยไม่ได้วิเคราะห์ตลาดให้ละเอียด หรืออาจเปิดออเดอร์ด้วยความหวังที่จะทำกำไรได้เร็ว ๆ โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
นอกจากนี้ FOMO ยังสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเทรดเดอร์ได้ เพราะการอยู่ในสภาวะที่กลัวจะพลาดโอกาสสามารถทำให้เทรดเดอร์รู้สึกเครียด วิตกกังวล และไม่สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ
ในการแก้ไขหรือบรรเทาอาการ FOMO นั้น เทรดเดอร์ควรตั้งเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน ทำการวิเคราะห์ตลาดอย่างละเอียด และจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม นอกจากนี้การฝึกจิตใจให้รอบคอบและใจเย็นก็เป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยบรรเทาอาการ FOMO ได้
การลงทุนในตลาด Forex นั้นมีความเสี่ยงสูง และเทรดเดอร์ทุกคนต่างก็ต้องพบเจอกับความกลัวและความรู้สึกที่อาจไม่สบายใจในบางครั้ง การทำความเข้าใจกับอาการ FOMO และวิธีการจัดการกับมัน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญและสามารถช่วยให้เทรดเดอร์นั้นสามารถทำการลงทุนได้อย่างมีสติและประสบความสำเร็จในระยะยาว
หนึ่งในปัจจัยที่กระตุ้นอาการ FOMO คือ การเกิดความผันผวนในตลาด Forex โดยเมื่อตลาดเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว นักลงทุนอาจรู้สึกว่าจำเป็นต้องเข้าไปในตลาดทันทีเพื่อไม่พลาดโอกาสในการทำกำไร
การขาดทุนซ้ำซากก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นอาการ FOMO โดยเฉพาะเมื่อนักลงทุนพยายามที่จะเอาคืนตลาดเพื่อความหวังว่าจะได้ทุนคืน ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่รอบคอบและการเพิ่มความเสี่ยงในการลงทุน
ข่าวสารและข่าวลือที่ปรากฏบนสื่อต่าง ๆ ก็สามารถกระตุ้นอาการ FOMO ได้เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อมีการเผยแพร่ข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อตลาด นักลงทุนอาจรู้สึกว่าต้องเข้าไปในตลาดทันทีเพื่อไม่พลาดโอกาสทำกำไรจากข้อมูลดังกล่าว
นอกจากนี้ โซเชียลมีเดีย เช่น Twitter ก็สามารถเป็นแหล่งกระตุ้น FOMO ได้ โดยเฉพาะเมื่อมีการแชร์เรื่องราวความสำเร็จในการลงทุนหรือการเทรด Forex จากผู้ใช้รายอื่น นักลงทุนอาจรู้สึกว่าต้องทำตามเพื่อไม่พลาดโอกาสทำกำไรเช่นกัน
อารมณ์ที่นำไปสู่ภาวะ FOMO
อารมณ์เป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจในการเทรด Forex และมีผลต่อภาวะ FOMO หรือความกลัวที่จะพลาดโอกาสทำกำไร มีอารมณ์หลัก 6 ประการที่สามารถนำไปสู่ภาวะ FOMO ดังนี้
- ความโลภ: ความโลภเป็นอารมณ์ที่ทำให้นักลงทุนต้องการทำกำไรมากขึ้นอย่างไม่จำกัด โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ความโลภอาจนำไปสู่การทำการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงและอาจนำไปสู่การขาดทุนในที่สุด
- ความกลัว: ความกลัวที่จะขาดทุนอาจทำให้นักลงทุนตัดสินใจซื้อหรือขายทันทีโดยไม่ได้วิเคราะห์สถานการณ์อย่างถี่ถ้วน ความกลัวอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่รอบคอบและอาจทำให้ขาดทุนได้
- ความเร่าร้อน: ความเร่าร้อนทำให้นักลงทุนอยากเข้าไปในตลาดทันทีเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวที่เป็นไปในทิศทางที่ต้องการ อาการนี้อาจนำไปสู่การทำการลงทุนที่ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า
- ความอิจฉาริษยา: ความอิจฉาริษยาทำให้นักลงทุนต้องการเทียบชั้นหรือทำได้ดีกว่าผู้อื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การเข้าไปในตลาดทันทีเมื่อเห็นผู้อื่นทำกำไร โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- ความใจร้อน: ความใจร้อนทำให้นักลงทุนต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ซึ่งอาจนำไปสู่การทำการลงทุนที่ไม่ได้วิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน ความใจร้อนอาจนำไปสู่การขาดทุนได้
- ความวิตกกังวล: ความวิตกกังวลอาจทำให้นักลงทุนตัดสินใจซื้อหรือขายทันทีโดยไม่ได้วิเคราะห์สถานการณ์อย่างถี่ถ้วน ความวิตกกังวลอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่รอบคอบและอาจทำให้ขาดทุนได้
ปัจจัยใดบ้างที่กระตุ้นให้เกิดการซื้อขายในภาวะ FOMO
ตลาดผันผวน
ตลาดที่ผันผวนเป็นสถานการณ์ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทุกคน เพราะมันมักจะมีโอกาสทำกำไรมากขึ้น แต่ในเวลาเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุน การเห็นโอกาสทำกำไรทำให้นักลงทุนบางคนต้องการกระโดดลงไปในตลาดโดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงที่ตามมา อารมณ์นี้เป็นอันตรายเพราะมันอาจทำให้นักลงทุนลงทุนอย่างไม่รอบคอบและทำให้เกิดภาวะ FOMO
ชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่
ชัยชนะในการลงทุนที่ใหญ่โตอาจทำให้นักลงทุนหลงระเริงและคิดว่าตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญ ในทางปฏิบัติ ชัยชนะครั้งใหญ่อาจเป็นเพียงโชคช่วยเท่านั้น และมันอาจทำให้นักลงทุนตกหลุมพลางของภาวะ FOMO ทำให้ลงทุนอย่างไม่รอบคอบ
ขาดทุนซ้ำซาก
การขาดทุนอย่างต่อเนื่องอาจทำให้นักลงทุนรู้สึกท้อแท้และขาดความมั่นใจ ความวิตกกังวลและความผิดหวังที่เกิดขึ้นอาจทำให้นักลงทุนลังเลที่จะถือครองสินทรัพย์ในระยะยาว สิ่งนี้อาจนำไปสู่การขาดทุนมากยิ่งขึ้น
ข่าวและข่าวลือ
การได้ยินข่าวและข่าวลือที่ไม่ได้ตรวจสอบอาจนำไปสู่ภาวะ FOMO ข่าวและข่าวลืออาจทำให้นักลงทุนตัดสินใจซื้อหรือขายโดยไม่ได้วิเคราะห์อย่างละเอียด นำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด
โซเชียลมีเดีย
การติดตามผู้เชี่ยวชาญทางโซเชียลมีเดียและการได้ยินคำแนะนำของพวกเขาอาจทำให้นักลงทุนรู้สึกอยากตามกระแสและลงทุนตามพวกเขา แต่การทำเช่นนี้อาจเป็นกับดัก เพราะอาจไม่ใช่ข้อมูลที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของนักลงทุนเอง ควรกรองข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน
แบบไหนที่เรียกว่าเข้าข่ายเป็น FOMO?
การเผชิญกับ FOMO หรือ “Fear of Missing Out” คือหนึ่งในความท้าทายที่หลายๆ นักเทรดต้องพบเจอ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจในการเทรด อาทิ การเข้าเทรดเร็วเกินไปหรือการพยายามที่จะไล่ตามจังหวะที่พลาดไปแล้ว เพื่อช่วยให้นักเทรดมีทัศนคติที่ดีและการตัดสินใจที่ถูกต้อง นักเทรดจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ ปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิด FOMO ได้แก่:
- ความโลภ: ความโลภทำให้นักเทรดต้องการได้ทุกอย่างในทันที หากคุณมักจะรู้สึกเช่นนี้ คุณอาจจะเป็น “FOMO Trader”
- ทำตามคนส่วนใหญ่: การลงทุนหรือเทรดตามคนอื่นโดยไม่มีการวิจัยหรือตัดสินใจอย่างรอบคอบ นักเทรดที่เป็น FOMO มักทำตามคนอื่นโดยไม่เข้าใจเหตุผลที่ทำเช่นนั้น การเทรดตามคนอื่นอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ดี
- ใจร้อนมากเกินไป นักเทรด FOMO มักใจร้อนและต้องการเข้าเทรดทันทีเพื่อไม่พลาดโอกาส
- ขาดความมั่นใจ หลังจากเทรดเสียบางครั้ง นักเทรดจะเริ่มขาดความมั่นใจและมองหากลยุทธ์จากผู้อื่น
- ไม่กล้าตัดสินใจ และมักลังเลแม้ว่าจะมีการวิเคราะห์ที่ดีแล้วก็ตาม
- ไม่มีกลยุทธ์ที่ชัดเจน เป็นนักเทรดประเภทนี้มักจะซื้อขายตามอารมณ์
- ไม่มีการจัดการความเสี่ยง มักจะไม่มีการวางแผนในการจัดการความเสี่ยง
- ความรู้สึกว่าต้องเข้ามาเทรดหรือลงทุนตอนนี้เพราะกลัวว่าจะพลาดโอกาสทำกำไร
- การเปลี่ยนแปลงแผนการลงทุนหรือกลยุทธ์เทรดโดยทันทีเมื่อเห็นคนอื่นทำกำไร
- การเข้าทำการเทรดหรือลงทุนโดยไม่ได้พิจารณาถึงความเสี่ยงหรือไม่มีการจัดการความเสี่ยงที่ดี
- การใช้เวลาหรือพลังงานจำนวนมากในการติดตามข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวของตลาดเพื่อไม่ให้พลาดโอกาส
FOMO (Fear Of Missing Out) ส่งผลต่อการทำกำไร ในการเทรด forex อย่างไรบ้าง
ความรู้สึก FOMO หรือความกลัวที่จะพลาดโอกาสดีๆ เป็นความรู้สึกที่พบได้บ่อยครั้งในการลงทุนและการเทรด Forex โดยเฉพาะ นักเทรดหลายคนมีความรู้สึกว่าหากพวกเขาไม่เข้าร่วมตลาดในตอนนี้ พวกเขาอาจจะพลาดโอกาสที่ดีในการทำกำไร ความรู้สึกนี้สามารถส่งผลให้นักเทรดตัดสินใจที่ไม่ดีได้ เช่นการเข้าเทรดโดยไม่มีการวิเคราะห์อย่างรอบคอบ หรือการตามคนอื่นเข้าเทรดโดยไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นอิสระ
ความรู้สึก FOMO ยังอาจทำให้นักเทรดเปลี่ยนแผนการเทรดของตนเองอย่างฉับพลันเมื่อเห็นคนอื่นทำกำไร ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดความสม่ำเสมอในการเทรด ความรู้สึกนี้ยังสามารถทำให้นักเทรดขาดการจัดการความเสี่ยงที่ดี และทำให้พวกเขาใช้เวลามากในการติดตามข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวของตลาดเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการทำกำไร แต่การทำเช่นนี้ก็อาจทำให้พวกเขามองข้ามโอกาสอื่นๆ ที่ดีกว่าได้
ทำความเข้าใจกับความรู้สึก FOMO และวิธีจัดการกับมันเป็นสิ่งที่สำคัญในการเทรด Forex ความรู้สึก FOMO มักเกิดขึ้นเมื่อนักเทรดเห็นโอกาสที่ดูเหมือนจะทำกำไรได้มาก แต่ไม่ได้เข้าร่วม ความรู้สึกนี้จะผลักดันให้นักเทรดตัดสินใจที่รวดเร็วโดยไม่ได้วิเคราะห์ความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้น การทำความเข้าใจกับความรู้สึกนี้และหาวิธีจัดการกับมันจึงเป็นสิ่งสำคัญ
นักเทรดควรตระหนักว่าไม่มีการเทรดที่สมบูรณ์แบบ และไม่มีใครสามารถทำนายความเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างแน่นอน ดังนั้น แทนที่จะกลัวที่จะพลาดโอกาส นักเทรดควรมุ่งเน้นไปที่การปฏิบัติตามแผนการเทรดที่ได้กำหนดไว้ และหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่รวดเร็วโดยไม่ได้วิเคราะห์อย่างรอบคอบ
การจัดการความเสี่ยงที่ดีเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยลดความรู้สึก FOMO ได้ นักเทรดควรกำหนดจุดหยุดขาดทุนและจุดทำกำไรล่วงหน้าเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ การศึกษาและการฝึกฝนเทคนิคการเทรดที่หลากหลาย การวิเคราะห์ข่าวสารและความเคลื่อนไหวของตลาด และการฝึกฝนการตัดสินใจอย่างเป็นอิสระจะช่วยให้นักเทรดสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นและลดความรู้สึก FOMO ที่อาจเกิดขึ้น
สิ่งสำคัญอีกอย่าง คือ ควรระวังไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของความรู้สึก FOMO และควรมีแผนการเทรดที่ชัดเจน การจัดการความเสี่ยงที่ดี และการตัดสินใจอย่างรอบคอบและอิสระเพื่อให้สามารถทำกำไรในตลาด Forex ได้อย่างยั่งยืนด้วย