Forex คือ อะไร
Forex หรือ “Foreign Exchange” คือ ตลาดการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ และเป็นตลาดที่มีความคล่องสูงที่สุดในโลก โดยปริมาณการซื้อขายในแต่ละวันอยู่ในระดับหลายล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งหลักการง่ายๆ คือการซื้อขายเงินตรานึง เพื่อเงินตราอื่น
เจาะลึกเกี่ยวกับ Forex
- ตลาดที่ไม่มีศูนย์กลาง คือ Forex เป็นตลาด Over-the-counter (OTC) ซึ่งไม่มีศูนย์การซื้อขายกลาง, แต่การซื้อขายเกิดขึ้นตามเครือข่ายระหว่างธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ ทั่วโลก
- เงินตราที่ถูกซื้อขาย คือ มีเงินตราหลายประเทศ เช่น USD, EUR, GBP, JPY และอื่นๆ ที่ถูกนำมาซื้อขายในตลาดนี้
- ปัจจัยที่ทำให้ราคาเงินตราเปลี่ยนแปลง คือ มีหลายปัจจัย เช่น อัตราดอกเบี้ย, ราคาน้ำมัน, สภาพเศรษฐกิจ, สถานการณ์ภายในประเทศ, ข่าวและรายงานเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ
- ความเสี่ยง คือ ด้วยความอ่อนไหวของราคา เป็นเหตุให้การลงทุนใน Forex มีความเสี่ยงสูง
- นักลงทุน คือ ในอดีต, ตลาด Forex เป็นสิทธิพิเศษเฉพาะกลุ่มสถาบันการเงินใหญ่ แต่ในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีและช่องทางการเทรดออนไลน์ นักลงทุนรายย่อยก็สามารถเข้ามาซื้อขายได้ แต่ในประเทศไทยการเทรด Forex ยังถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
คำเตือน: แม้ว่า Forex จะมีโอกาสในการทำกำไรสูง แต่ความเสี่ยงที่ตามมาก็สูงเท่านั้น ฉะนั้นการศึกษาและเตรียมตัวก่อนการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ
การเทรด Forex ในประเทศไทย
การเทรด Forex หรือการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศในประเทศไทย ช่ได้รับความนิยมอย่างมาก ถือว่าเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลาย ทั้งในเว็บบอร์ด, โซเชียลมีเดียหรือแม้แต่ในข่าวสาร ภาพรวมของการเทรด Forex ในไทยนั้นมีทั้งด้านบวกและด้านลบ คือ มีความสำเร็จของการเทรดที่นำไปสู่กำไร แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้เสียเงินด้วย
ในบริบทของกฎหมายไทย
มีการสนทนาและความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการเทรด Forex ว่าเป็นการลงทุนที่ถูกกฎหมายหรือไม่ แม้ว่าเรื่องนี้จะยังมีความไม่ชัดเจน แต่ก็ยังมีจำนวนมากของนักเทรดที่เลือกลงทุนในตลาดนี้ อย่างไรก็ตามความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกฎหมายและการประกันว่าการเทรดของคุณเป็นที่ยอมรับตามกฎหมายเป็นสิ่งสำคัญมาก จึงต้องศึกษาข้อมูลให้ดี
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่า Forex ในประเทศไทยเคยถูกห้ามในประมาณ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ยังต้องการการยืนยันเพิ่มเติม การเทรด Forex นั้นต้องใช้ความรู้ ทักษะ และความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดซึ่งมีความซับซ้อนและเสี่ยง ดังนั้นการลงทุนใน Forex ควรทำด้วยความระมัดระวังและความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายท้องถิ่น
เทรด Forex ผิดไหม
เทรดเดอร์สามารถเข้าไปเทรด Forex ได้โดยไม่มีปัญหาแต่ควรพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อความเสี่ยงในการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นจากการเทรดในตลาดนี้ สำหรับการเทรดผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศถ้าเกิดเสียหายหรือถูกฉ้อโกง การแก้ไขปัญหาหรือยื่นคำร้องเรียนอาจเป็นไปได้ยากมาก
Forex ถูกกฎหมายในไทยหรือไม่
จากกข่าวของ Bangkokbiznew.com นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำการชี้แจงเกี่ยวกับข่าวที่มีการหลอกลวงประชาชนให้ลงทุนในการเทรดเงินตราต่างประเทศหรือ FOREX โดยใช้การอ้างเป็นการลงทุนที่จะให้ผลตอบแทนสูง แต่ไม่มีการนำเงินไปลงทุนจริง และมีการดำเนินการที่คล้ายกับแชร์ลูกโซ่ ซึ่งสร้างความเสียหายและอาจทำให้ผู้ลงทุนไม่สามารถรับเงินคืนได้
ตามกฎหมายควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินในประเทศไทย การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินตราต่างประเทศจะต้องรับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเท่านั้น และปัจจุบันผู้ได้รับอนุญาตเป็นเพียงธนาคารพาณิชย์และบริษัทหลักทรัพย์เท่านั้น รายชื่อของผู้ได้รับอนุญาตสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของธปท. (www.bot.or.th)
การให้บริการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทางอินเทอร์เน็ตโดยบุคคลหรือนิติบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตจะถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ในทางกฎหมาย, ธปท. ไม่อนุญาตให้มีการโอนเงินไปต่างประเทศเพื่อชำระธุรกรรมซื้อขายเงินตราต่างประเทศบนเว็บไซต์ต่างประเทศ
บุคคลหรือนิติบุคคลที่แนะนำ โฆษณา หรือชวนประชาชนเข้าร่วมซื้อขายเงินตราต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต, อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
สรุปว่า การลงทุน Forex ในประเทศไทยมีความซับซ้อนในเชิงกฎหมาย และบุคคลที่ต้องการลงทุนจะต้องตรวจสอบว่าธุรกรรมของพวกเขาเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่
ข้อความสำคัญที่ทางธปท. ได้ทำการชี้แจง ได้แก่
- ประชาชนที่ต้องการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามกฎหมายต้องทำการซื้อขายเงินตราต่างประเทศกับผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเท่านั้น และยังไม่มีใบอนุญาตที่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปเทรด FOREX
- การเทรด FOREX ในประเทศไทย ไม่ได้รับอนุญาต และถ้ามีการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับ FOREX จะถือเป็นการผิดกฎหมาย
- บุคคลหรือธุรกิจที่ไม่ได้รับอนุญาตแต่มีการโฆษณาหรือชักชวนประชาชนในการเทรด FOREX จะถือว่าผิดกฎหมาย
- เมื่อพูดถึงกรณี FOREX 3D ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เปิดเผย ธปท. ได้ร่วมมือในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีนี้และยืนยันว่า FOREX 3D มีการกระทำความผิดตามกฎหมายหลายข้อ
ธปท. ยังได้เตือนประชาชนอย่างต่อเนื่องให้ระวังและไม่หลงเชื่อการหลอกลวงจากการเทรดเงินตราต่างประเทศ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ประชาชนสามารถติดต่อฝ่ายนโยบายและกำกับการแลกเปลี่ยนเงิน ธปท. หรือตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ BOT License Check เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง
Forex กับกฎหมายไทย ปัจจุบัน Forex ถูกกฎหมายหรือไม่?
การเทรด Forex ผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศ เป็นหัวข้อที่มักถูกสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย ณ ปัจจุบันประเทศไทยไม่ได้มีกฎหมายที่ระบุว่าการเทรด Forex ผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศเป็นการละเมิดกฎหมาย ซึ่งหมายความว่า บุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยสามารถเทรด Forex ผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศได้โดยไม่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงและสิ่งที่ควรระวังเมื่อเทรด Forex และทำการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
กรณีเกี่ยวกับ Forex 3D
Forex 3D คือบริษัทที่เสนอการลงทุนใน Forex ผ่านโบรคเกอร์โดยระดมกองทุนจากผู้สนใจลงทุนเริ่มต้นที่ 50,000 – 60,000 บาทต่อคน และเมื่อเกิดกำไรจากการเทรดจะแบ่งตามสัดส่วนแก่ผู้ลงทุน. โดยบริษัทก็การันตีผลตอบแทนทุกเดือน
ข้อมูลพื้นฐานของ Forex 3D
- ก่อตั้งโดย RMS Famelia Co. Ltd.
- ตั้งอยู่ที่ตึก AIA ชั้น 20 ถนนรัชดา 3 เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
- ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเงิน การลงทุนและเปิดระดมทุนเพื่อเทรดเงินตราต่างประเทศ
- แบ่งกำไรในสัดส่วน 60/40 (เจ้าของเงิน 60% และโบรกเกอร์ 40%)
- มีระบบค่าคอมมิชชันจากกำไรของลูกทีม 5%
การทำงานของ Forex 3D
ที่ Forex 3D อ้างว่ามีทีมงานเทรดที่เชี่ยวชาญและอ้างว่าสามารถทำกำไรให้ได้ถึง 10% ต่อเดือน เจ้าของบริษัทมีอายุไม่ถึง 26 ปีและเคยออกข่าวว่าเคยทำศัลยกรรมถึง 16 ครั้งในอายุ 17 ปี การลงทุนเป็นรูปแบบโอนเงินเข้าบัญชีบริษัทและได้รับผลตอบแทน 10-15% ทุกเดือน ซึ่งเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่
จุดเริ่มต้นของปัญหา
Forex 3D เริ่มมีปัญหาในการจ่ายปันผลและมีความเสียหายขึ้น ในส่วนของผลตอบแทนและการแนะนำเพื่อนมาลงทุน Forex 3D ไม่มีการจ่ายเงินจริง
ถ้าจะเทรด Forex ต้องดูโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถืออย่างไร
การเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ จะช่วยให้คุณสามารถเทรด Forex อย่างมั่นใจและปลอดภัยได้ ที่สำคัญคือคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการโกงหรือการละเมิดสิทธิของนักลงทุน ดังนั้น คุณควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ต่อไปนี้เมื่อต้องการเลือกโบรกเกอร์:
การอนุญาตและการกำกับดูแล
- ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์มีการอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่มีเสถียรภาพ ในประเทศต่าง ๆ ที่โบรกเกอร์ดังกล่าวดำเนินธุรกิจ เช่น FCA (UK), CySEC (Cyprus), ASIC (Australia) หรือ SEC (USA)
ประวัติและความน่าเชื่อถือ
- ค้นหาความคิดเห็นและรีวิวจากนักลงทุนคนอื่น ๆ ที่มีประสบการณ์การใช้งานโบรกเกอร์นั้น ๆ
เงื่อนไขการเทรด
- ตรวจสอบสเปรด, ค่าธรรมเนียม, เลเวอเรจ, และรายละเอียดอื่น ๆ ที่มีผลต่อการเทรดของคุณ
ช่องทางการฝาก-ถอนเงิน
- ควรมีวิธีการฝากและถอนเงินที่หลากหลาย ปลอดภัย และไม่มีค่าธรรมเนียมสูง
ระบบการซัพพอร์ต
- ควรมีฝ่ายบริการลูกค้าที่รวดเร็ว และมีคุณภาพ ด้วยช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย เช่น โทรศัพท์, อีเมล, แชทสด และอื่น ๆ
แพลตฟอร์มการเทรด
- แพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย มีความเสถียร และมีเครื่องมือช่วยเสริมสำหรับนักลงทุน
การเปิดบัญชี
- กระบวนการเปิดบัญชีควรรวดเร็ว และไม่ซับซ้อนเกินไป
การอบรมและทรัพยากร
- ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์มีแหล่งข้อมูลเพื่อการศึกษาของนักลงทุนหรือไม่ เช่น เวบินาร์, บทความ, และวิดีโออบรม
ความปลอดภัย
- ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ใช้มาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวด มีการเข้ารหัสข้อมูล และมีระบป้องกันการโจมตีจากภายนอก
ความโปร่งใส
- โบรกเกอร์ควรเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับธุรกิจ รวมถึงปัญหาหรือข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นในอดีต
หน่วยงานที่กำกับดูแลตลาด Forex ที่เชื่อถือได้
1. ASIC (Australian Securities and Investments Commission)
- ประเทศ: ออสเตรเลีย
- ภารกิจ: ต่อต้านการทุจริตทางการเงิน และต่อต้านการทุจริตในตลาดทุน
- ข้อกำหนด: โบรกเกอร์ที่จดทะเบียนกับ ASIC ต้องมีเงินทุนหมุนเวียนอย่างน้อย 1 ล้านเหรียญ
- ที่มา: เว็บไซต์ ASIC
2. FCA UK (Financial Conduct Authority United Kingdom)
- ประเทศ: สหราชอาณาจักร
- ข้อกำหนด:
- โบรกเกอร์ที่ควบคุมโดย FCA ต้องมีเงินทุนหมุนเวียนอย่างน้อย 1 ล้านปอนด์
- วงเงินชดเชย 50,000 ปอนด์ต่อบัญชีในกรณีที่โบรกเกอร์ล้มละลาย
- ที่มา: เว็บไซต์ FCA
3. CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission)
- ประเทศ: ไซปรัส
- ข้อกำหนด:
- โบรกเกอร์ที่จดทะเบียนกับ CySEC ต้องมีเงินทุนหมุนเวียนอย่างน้อย 750,000 ยูโร
- วงเงินชดเชยเงิน 20,000 ยูโรต่อบัญชีในกรณีที่โบรกเกอร์ล้มละลาย
- ที่มา: เว็บไซต์ CySEC
สถานการณ์การเทรด Forex และข่าวเกี่ยวกับ Forex ในประเทศไทย
การระดมทุนโดยอ้างเพื่อการระดมทุน, แชร์ลูกโซ่ เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และมีความผิดตาม “พ.ร.บ. การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มาตรา 4”
การเปิดโบรกเกอร์ Forex ในประเทศไทย ยังไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายที่ออกใบอนุญาตให้เปิดโบรกเกอร์เกี่ยวกับการชำระเงินต่างประเทศในประเทศไทย
หมายเหตุ
การระดมทุนในรูปแบบแชร์ลูกโซ่เป็นการผิดกฎหมายในประเทศไทย และมีความเสียหายใหญ่หลายรายการ หากคิดจะลงทุน ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และหลีกเลี่ยงการลงทุนในแบบแชร์ลูกโซ่
ข้อมูลจากเว็บไซต์สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
“กรณีที่ปัจจุบันมีเว็บไซต์จากต่างประเทศชักชวนให้ประชาชนลงทุนในการซื้อ-ขายเงินตราต่างประเทศ ในลักษณะเก็งกำไรค่าเงินนั้น จากการศึกษาของ สศค. และธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าใจว่า การลงทุนเพื่อ เก็งกำไรดังกล่าวไม่ได้มีการซื้อ-ขายเงินตราต่างประเทศโดยตรง แต่เป็นเพียงกระบวนการที่เกิดขึ้นในระบบคอมพิวเตอร์ที่มีแม่ข่ายอยู่ในต่างประเทศ และผลการดำเนินการจะมีการชำระบัญชีของส่วนต่างที่เป็นผลกำไรหรือขาดทุนเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายใดรองรับ ดังนั้น หากนักลงทุนต้องการดำเนินธุรกรรม ในลักษณะดังกล่าว อาจมีความเสี่ยงทั้งจากความเสียหายจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนและการผิดนัดชำระเงินคืน
ทั้งนี้ปัจจุบันยังไม่มีการออกใบอนุญาตให้ผู้ใดประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการชำระเงินต่างประเทศตามกฎหมาย ว่าด้วยการควบคุมอัตราการแลกเปลี่ยน ในลักษณะการเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ดังนั้น หากมีบุคคลใดมาชักชวนให้ร่วมลงทุนในลักษณะดังกล่าวให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ท่านอาจโดนมิจฉาชีพหลอกลวงมีโอกาสได้รับความเสียหาย” (อ้างอิง fpo.go.th: วันที่ 4 ก.ค. 2560)
สรุปการจัดการความเสี่ยงในการเทรด Forex
การจัดการความเสี่ยงเป็นส่วนสำคัญในการเทรด Forex ที่ทั้งนักเทรดมือใหม่และมืออาชีพต้องใส่ใจ หากไม่มีวิธีการจัดการความเสี่ยงที่ดี แม้กระนั้นการเทรดที่ดีที่สุดก็ยังอาจนำไปสู่ความสูญเสียที่มาก ไม่เกี่ยวว่า Forex จะถูกกฎหมายไหม แต่การจัดการความเสี่ยงในเมื่อคิดจะลงบทุนควรต้องมี และมีองค์ประกอบเหล่านี้
- ใช้คำสั่ง Stop Loss: คำสั่ง Stop loss จะปิดการซื้อขายอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ ช่วยจำกัดการสูญเสีย
- ตั้งค่าคำสั่ง Take Profit: เหมือนกับ stop loss, คำสั่ง take profit จะปิดการซื้อขายอัตโนมัติเมื่อถึงระดับกำไรที่กำหนดไว้
- รับผิดชอบเพียงเล็กน้อยของเงินทุนในการซื้อขาย: กฎทั่วไปคือการรับผิดชอบเพียง 1-2% ของเงินทุนสำหรับการซื้อขายครั้งเดียว
- ใช้ Leverage อย่างระมัดระวัง: แม้ leverage จะเพิ่มกำไร แต่มันยังเพิ่มความเสียหาย
- การแยกการลงทุน: ไม่ควรวางทุนทั้งหมดในการซื้อขายครั้งเดียว
- ใช้อัตราความเสี่ยงต่อรางวัล: อัตราส่วน 3:1 คือการคาดหวังกำไร 3 ดอลลาร์เมื่อรับผิดชอบความเสี่ยง 1 ดอลลาร์
- ติดตามข่าว: ติดตามข่าวและเหตุการณ์ต่างๆที่อาจกระทบต่อราคาสกุลเงิน
- ควบคุมอารมณ์: การเทรดโดยมีอารมณ์ส่วนตัวมักนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด
- ทบทวนและปรับปรุง: ทบทวนวิธีการเทรดและวิธีการจัดการความเสี่ยงเป็นประจำ
- ใช้บัญชีเดโม: ใช้บัญชีเดโมในการทดลองเทรดก่อนที่จะเริ่มการเทรดจริง
- ตั้งค่าการสูญเสียสูงสุดต่อวัน: กำหนดการสูญเสียสูงสุดในแต่ละวัน
- การเรียนรู้ต่อเนื่อง: ตลาด Forex เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ควรพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง