Forex คืออะไร
Forex ชื่อย่อของ Foreign Exchange Market นิยมเขียนสั้นๆ FX คือ “ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ” เป็นตลาดที่ใช้สำหรับการซื้อขายสกุลเงินของแต่ละประเทศต่อกัน แต่ละประเทศจะมีสกุลเงินเป็นของตนเองและมูลค่าของสกุลเงินเหล่านั้นจะเปลี่ยนแปลงตามปัจจัยต่างๆ ตลาดนี้มีปริมาณการซื้อขายต่อวันเกิน 6 ล้านล้านดอลลาร์ตามข้อมูลล่าสุดในปี 2021
การซื้อขายในตลาด Forex โดยหลักจะมุ่งเน้นไปที่ “คู่เงิน” ซึ่งประกอบด้วยสกุลเงินสองตัว คือ “Base” และ “Quote” เพื่อแสดงถึงมูลค่าเทียบเท่าของสกุลเงินนั้น เช่น ในคู่เงิน EUR/USD ที่มีอัตรา 1.2000 หมายความว่า 1 ยูโร (Base) มีมูลค่าเท่ากับ 1.2 ดอลลาร์สหรัฐ (Quote)
เทรดเดอร์ในตลาด Forex มุ่งมั่นที่จะทำกำไรจากการแกว่งตัวของมูลค่าสกุลเงิน ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ข้อมูลเศรษฐกิจ, อัตราดอกเบี้ย, ความเสถียรทางการเมือง, และเหตุการณ์ระหว่างประเทศ ตลาด Forex เปิดตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งทำให้เทรดเดอร์สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์และข้อมูลเศรษฐกิจทั่วโลกได้ทันท่วงที
ทุกคคนสามารถเข้าร่วมการเทรด Forex ผ่านโบรกเกอร์หรือธนาคาร โดยใช้การจับสัญญาณเพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไร แต่นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงด้วย การเทรด Forex ต้องการความเข้าใจลึกซึ้งในตลาด มีกลยุทธ์ที่ดี และรู้จักจัดการความเสี่ยงต่างๆ
สกุลเงินต้องรู้ก่อนเทรด Forex
ตลาด Forex มีสกุลเงินหลายประเภทที่นักลงทุนสามารถซื้อขายได้ ซึ่งสกุลเงินเหล่านี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ major currency และ Exotic currency
major currency คือ สกุลเงินที่ได้รับความนิยมในการซื้อขายเป็นอย่างมาก ทำให้มีความคล่องในตลาด สกุลเงินเหล่านี้ประกอบด้วย
- ดอลลาร์สหรัฐ (USD)
- ยูโร (EUR)
- เยน (JPY)
- ปอนด์อังกฤษ (GBP)
- ฟรังก์สวัส (CHF)
- ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD)
- ดอลลาร์แคนาดา (CAD)
- ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD)
ในการซื้อขาย สกุลเงินจะถูกนำมาจับคู่กัน เพื่อกำหนดราคาและวัดความเคลื่อนไหวในตลาด ซึ่งมีสกุลเงินจับคู่ให้เลือกเป็นจำนวนมาก กว่า 100 คู่เงิน
อีกหนึ่งประเภทคือ Exotic currency ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมในการซื้อขาย จึงทำให้ความคล่องของมันในตลาดไม่สูง ตัวอย่างของ Exotic currency ได้แก่ Swedish Krona (SEK), Norwegian Krone (NOK) และ Turkish Lira
ทำความรู้จักกลไกการเทรดในตลาด Forex
ตลาดการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (forex) เป็นตลาดระดับโลกที่ไม่มีศูนย์กลาง ที่สกุลเงินของแต่ละประเทศถูกซื้อขายต่อกัน ต่อไปนี้เป็นคำอธิบายเกี่ยวกับกลไก forex
พื้นฐาน
- การซื้อขาย forex หมายถึง การซื้อสกุลเงินหนึ่ง ในขณะที่ขายสกุลเงินอื่น ๆ พร้อมกัน ผ่านคู่เงิน เช่น EUR/USD หรือ GBP/JPY แต่ละคู่บ่งบอกถึงจำนวนสกุลเงินที่สอง (สกุลเงิน “quote”) ที่จำเป็นต้องใช้ในการซื้อหน่วยของสกุลเงินแรก (สกุลเงิน “base”)
ผู้เข้าร่วมตลาด
- มีผู้เข้าร่วมหลากหลาย เริ่มต้นจากธนาคารกลาง, สถาบันการเงิน, ไปจนถึงเทรดเดอร์รายย่อย ธนาคารกลางสามารถมีอิทธิพลต่อค่าเงินโดยการปรับอัตราดอกเบี้ยและการแทรกแซงตลาด
ปัจจัยที่กำหนดอัตราแลกเปลี่ยน
- มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อค่าสกุลเงิน เช่น ตัวชี้วัดเศรษฐกิจ, อัตราดอกเบี้ย, เหตุการณ์ทางการเมืองและภัยพิบัติ ซึ่งมีบทบาทสำคัญ โดยมุมมองของเทรดเดอร์สามารถมีผลต่อค่าเงินอย่างมากได้
กลไกการซื้อขาย
- Forex เปิด 24 ชั่วโมง ด้วยช่วงเวลาการซื้อขายที่ซ้อนทับกัน ตามตลาดการเงินหลัก: ซิดนีย์, โตเกียว, ลอนดอนและนิวยอร์ก การซื้อขายสามารถดำเนินการผ่านหลายแพลตฟอร์ม
Leverage
- คุณลักษณะเฉพาะของ forex คือการใช้ leverage ทำให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อย ซึ่งสามารถเพิ่มกำไรแต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้วย
ความเสี่ยงและการจัดการ
- ตลาด forex มีความผันผวน การจัดการความเสี่ยง เช่น คำสั่ง stop-loss สามารถปิดซื้อขายที่ระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อจำกัดการสูญเสีย
โบรกเกอร์
- เทรดเดอร์รายย่อยเข้าถึงตลาด forex ผ่านโบรกเกอร์ โบรกเกอร์เหล่านี้ให้แพลตฟอร์มการซื้อขาย, การวิจัยตลาดและเครื่องมืออื่น ๆ พวกเขาทำกำไรจาก spreads ซึ่งเป็นความแตกต่างระหว่างราคาซื้อและขายของคู่เงิน
โบรกเกอร์ Forex คืออะไร
ฟอเร็กซ์โบรกเกอร์เป็นตัวกลางที่ให้เทรดเดอร์เข้าถึงตลาดสกุลเงินระดับโลก ตลาดฟอเร็กซ์ คือ ที่ที่สกุลเงินของแต่ละประเทศถูกซื้อขายต่อกัน เนื่องจากความไม่มีศูนย์กลางของตลาดนี้ บุคคลไม่สามารถเทรดสกุลเงินโดยตรงได้โดยไม่ต้องใช้บริการของโบรกเกอร์
หน้าที่ของโบรกเกอร์ Forex นั้น ถือว่าเป็นสะพานที่เชื่อมต่อเทรดเดอร์รายย่อยกับตลาดฟอเร็กซ์ระหว่างธนาคาร ที่มีปริมาณการซื้อขายที่มาก พวกเขาให้บริการผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายที่เทรดเดอร์สามารถซื้อหรือขายสกุลเงินต่างประเทศ
ประเภทของโบรกเกอร์ ได้แก่ market makers ที่ให้บริการสภาพคล่องด้วยการเทรดด้านตรงข้ามกับลูกค้า; โบรกเกอร์ ECN ที่ให้ลูกค้าเข้าถึงตลาดระหว่างธนาคารโดยตรง; และโบรกเกอร์ STP ที่ส่งคำสั่งไปยังผู้ให้บริการสภาพคล่องโดยตรง
โบรกเกอร์นำเสนอแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของตนเองหรือบุคคลที่สาม ซึ่งเทรดเดอร์สามารถทำการเทรด วิเคราะห์ตลาด และจัดการบัญชีของตนเอง เช่น MetaTrader 4 และ MetaTrader 5
โบรกเกอร์ทำกำไรผ่าน spreads และหรือค่าคอมมิชชั่นจากการเทรด บางครั้งอาจให้บริการเทรดโดยไม่คิดค่าคอมมิชชั่น แต่มี spreads ที่กว้างขึ้น
การใช้ leverage เป็นคุณลักษณะเด่นของการเทรดฟอเร็กซ์ที่โบรกเกอร์ให้บริการ ทำให้เทรดเดอร์สามารถเปิด position ที่ใหญ่ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น ด้วย leverage 100:1 เทรดเดอร์สามารถควบคุมตำแหน่ง $100,000 ด้วยเพียง $1,000 สิ่งนี้ทำให้กำไรและขาดทุนที่เป็นไปได้เพิ่มขึ้น
โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่น่าเชื่อถือจะได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานทางการเงินที่ได้รับการรับรอง เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาปฏิบัติตามมาตรฐานและแนวปฏิบัติที่เฉพาะเจาะจงที่ปกป้องเทรดเดอร์ การกำกับดูแลเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับความปลอดภัยของเทรดเดอร์และป้องกันกิจกรรมทุจริต
นอกจากการนำเสนอแพลตฟอร์มการเทรดแล้ว โบรกเกอร์หลายๆ คนยังให้บริการเพิ่มเติมเช่น การวิจัยตลาด ทรัพยากรการศึกษา และบริการสนับสนุนลูกค้า
สิ่งที่เทรดเดอร์ต้องรู้จักก่อนการเทรด Forex
การซื้อขายฟอเร็กซ์ (การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ) เกี่ยวกับการซื้อและขายสกุลเงินเพื่อหวังให้ได้กำไร เริ่มต้นสำหรับมือใหม่นั้น การเข้าสู่โลกของฟอเร็กซ์อาจทำให้เทรดเดอร์มือใหม่รู้สึกตื่นเต้น ดังนั้นจึงมีแนวทางการเริ่มต้น เพื่อเป็นการทำความรู้จักกับวงการนี้ก่อนเข้าตลาดจริง ดังต่อไปนี้
- ทำความรู้จักกับตลาดฟอเร็กซ์: ไม่เหมือนกับหุ้นที่ถูกซื้อขายบนตลาด, ฟอเร็กซ์ถูกซื้อขายแบบ over-the-counter ซึ่งหมายความว่าไม่มีศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนหรือตลาดจริง
- ทำความรู้จักคู่สกุลเงิน: สกุลเงินถูกซื้อขายในรูปคู่ เช่น EUR/USD หรือ GBP/JPY สกุลเงินแรกคือ “ฐาน” และสกุลเงินที่สองคือ “ราคา” หรือ “สกุลเงินตรงข้าม”
เลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้
- สิ่งสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแล ควรศึกษารีวิวจากผู้ใช้คนอื่นร่วมด้ว
การศึกษาและค้นหาข้อมูลด้วยตัวเองอย่างะเอียด
- ก่อนที่จะเริ่มต้น ควรศึกษาให้เข้าใจก่อน ซึ่งมีโบรกเกอร์มากมายที่ให้ข้อมูล, สัมมนาออนไลน์ และบทความ
- เข้าใจการวิเคราะห์พื้นฐาน (ตัวบ่งชี้เศรษฐกิจ, อัตราดอกเบี้ย) และการวิเคราะห์ทางเทคนิค (กราฟ และ indicator)
เริ่มต้นด้วยบัญชีการซื้อขายทดลอง
- ก่อนที่จะเสี่ยงเงินจริง ควรฝึกซ้อมกับบัญชีทดลอง เพื่อทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มการซื้อขายและกลยุทธ์โดยไม่เสี่ยง
เงินทุน
- การซื้อขายฟอเร็กซ์มักมีการใช้ leverage ทำให้คุณสามารถส่งออเดอร์ที่ใหญ่ด้วยเงินจำนวนน้อย อย่างไรก็ตามมันสามารถทำให้กำไรและขาดทุนมากขึ้น
การจัดการความเสี่ยง
- ให้คุณเสี่ยงเป็นสัดส่วนที่น้อยสำหรับการเทรดของทุนการซื้อขายของคุณในการซื้อขายเดียว
- ใช้คำสั่งหยุด Stoploss เพื่อจำกัดการขาดทุนจำนวนมาก
- สิ่งที่ต้องทำคือ มันเป็นการรักษาระยะในระยะยาว ไม่ใช่ทำกำไรระยะสั้น
ศึกษาข่าวและความรู้
- ตลาดฟอเร็กซได้รับอิทธิพลจาก เหตุการณ์ข่าว, การปล่อยข้อมูลทางเศรษฐกิและเหตุการณ์ทางการเมือง การติดตามข่าว สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจการซื้อขายที่ดีขึ้น
วินัยทางอารมณ์
- การซื้อขายอารมณ์มักนำไปสู่การตัดสินใจแบบกระทันสุดวิสัย ควรมีการวางแผนการเทรด ทำตามแผน และหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่มีพื้นฐานอยู่บนความกลัวหรือความโลภ
เก็บบันทึกการเทรด
- บันทึกการเทรดของคุณรวมถึงเหตุผลสำหรับการเข้าหรือออกจากการเทรดและตรวจสอบเพื่อว่าสิ่งที่ทำอยู่ดีหรือไม่ดี
การเรียนรู้ต่อเนื่อง
- ตลาดฟอเร็กซ์เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ต้องเปิดใจต่อการเรียนรู้, ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ใหม่, เครื่องมือ, หรือการเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจโลก
ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียม
- ศึกษาค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย ซึ่งอาจรวมถึง spreads, ค่าคอมมิชชั่น เพื่อลดต้นทุนการเทรด
ภาษี
- กำไรจากการซื้อขายฟอเร็กซ์อาจต้องเสียภาษี ให้คุณปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อเข้าใจให้ถูกต้องเสียก่อน
กลยุทธ์การเทรด
- เช่นเดียวกับการลงทุน อย่าวางใส่ไข่ทั้งหมดในตะกร้าเดียว แยกเป็นกลยุทธ์การซื้อขายของคุณเพื่อกระจายและลดความเสี่ยง
รู้เวลาว่าเมื่อไหร่จะหยุด
- การซื้อขายฟอเร็กซ์อาจทำให้ติดงอมแงม ตั้งกฎไว้ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน เพื่อรองรับความเสี่ยงของตัวเอง
ข้อดีของการเทรด Forex
- ตลาด 24 ชั่วโมง: คุณสามารถเทรด Forex ได้ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ นักเทรดสามารถปรับเวลาเทรดให้เข้ากับกิจกรรมของตนเองได้
- ความน้ำไหลสูง: ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีความน้ำไหลสูงที่สุด เนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายที่ใหญ่มาก, ส่งผลให้นักเทรดสามารถเข้า-ออกตลาดได้ทันที
- ใช้งาน Leverage: การเทรด Forex ช่วยให้นักเทรดสามารถควบคุมมูลค่าการซื้อขายที่ใหญ่ด้วยเงินทุนที่น้อยลง
- ค่าธรรมเนียมต่ำ: ธรรมเนียมการทำธุรกรรมใน Forex มักจะต่ำ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบของ spread
- ความเปิดเผย: การเข้าถึงข้อมูลตลาด Forex มักจะง่ายและเปิดเผย สามารถเข้าถึงข้อมูลและข่าวสารจากทั่วโลกได้
- ทางเลือกที่หลากหลาย: มีคู่เงินหลากหลายให้เทรด ตั้งแต่สกุลเงินหลักจนถึงสกุลเงินขอบเขต
- ความต้านทานต่อความผันผวน: ตลาด Forex ไม่สามารถบังคับได้โดยธุรกิจหนึ่งๆ หรือธนาคาร ซึ่งทำให้มันต้านทานต่อการควบคุมหรือการจัดการของกลุ่มเฉพาะ
- ความสามารถในการทำกำไรในทั้งสองทิศทาง: นักเทรดสามารถทำกำไรได้ไม่ว่าราคาของสกุลเงินจะขึ้นหรือลง
- การลงทุนเริ่มต้นต่ำ: มักไม่ต้องใช้เงินทุนมากเมื่อเริ่มต้นการเทรด Forex เนื่องจากคุณสามารถเทรดผ่านบัญชี Micro หรือ Mini ได้
- เทคโนโลยีขั้นสูง: นักเทรดสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มการเทรด, เครื่องมือวิเคราะห์ และข้อมูลตลาดที่ทันสมัยและเป็นมืออาชีพ
ข้อเสียของการเทรด Forex
- ความเสี่ยงจาก Leverage: การใช้ leverage ทำให้นักเทรดสามารถควบคุมมูลค่าการซื้อขายได้มากกว่าเงินทุนที่มี แต่ความเสี่ยงที่จะเสียเงินมากขึ้นก็สูงตามไปด้วย
- ความซับซ้อนของตลาด: ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีความซับซ้อน เนื่องจากมีปัจจัยหลายๆ ประการที่ส่งผลต่อราคาสกุลเงิน
- ค่าธรรมเนียมที่ไม่คาดคิด: บางครั้งนักเทรดอาจจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแบบ overnight หรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากโบรกเกอร์
- การขาดการสนับสนุน: หากเกิดปัญหากับโบรกเกอร์ หรือการเข้าถึงแพลตฟอร์มการเทรด นักเทรดอาจพบปัญหาในการจัดการกับ position ของตน
- ตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว: ราคาสกุลเงินสามารถเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในเวลาสั้น ๆ ซึ่งอาจทำให้นักเทรดเสียโอกาสหรือเสียเงิน
- สัญญาณข้อมูลผิดพลาด: หลายครั้งที่การเทรดบนข้อมูลหรือสัญญาณที่ไม่แน่นอน ทำให้ผู้เทรดทำการซื้อขายด้วยความไม่แน่ใจ
- การลงทุนในการศึกษา: การเทรด Forex ต้องการความรู้และทักษะที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาและเงินในการศึกษา
- ความเสี่ยงจากโบรกเกอร์: ไม่เท่าไหร่ที่โบรกเกอร์ทั้งหมดจะน่าเชื่อถือ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการโกงเงินหรือปัญหาอื่น ๆ
- อารมณ์และความรู้สึก: ความรู้สึกเช่นความกังวล, ความโกรธ, หรือความตื่นเต้น อาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจในการเทรด
- ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเมือง: เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจหรือการเมือง ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ สามารถส่งผลกระทบต่อราคาสกุลเงินได้อย่างรวดเร็วและไม่คาดคิด
ความนิยมของการลงทุนในตลาด Forex
การลงทุนในตลาด Forex ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มีหลายเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนหลายๆ คนหันมาสนใจตลาดนี้ หนึ่งในเหตุผลคือตลาด Forex เปิดทำการ 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ทำให้นักลงทุนสามารถเลือกเวลาที่เหมาะสมในการเข้าสู่ตลาดได้ นอกจากนี้ตลาด Forex ยังมีความเปิดใส และสามารถเข้าถึงได้ง่าย สำหรับนักลงทุนทุกขนาดไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนรายย่อยหรือรายใหญ่ การใช้ leverage ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ทำให้การลงทุนใน Forex มีโอกาสในการทำกำไรสูง แต่ต้องระวังความเสี่ยงในการเสียเงินมากขึ้นด้วย และเนื่องจากตลาด Forex เป็นตลาดที่ซับซ้อน มีปัจจัยที่ส่งผลกระทบมากมาย จึงสามารถสร้างโอกาสให้นักลงทุนที่มีความรู้และทักษะสามารถหากำไรในตลาดได้
ความเสี่ยงในตลาด Forex
ตลาด Forex สามารถทำให้ทุกคนรวยเร็วได้และล้างพอร์ตจนหมดตัวได้เช่นกัน เนื่องจากมีความเสี่ยงในการลงทุน ตลาด Forex นี้สามารถนำไปสู่การเสียเงินได้สูงเท่าที่คุณได้ลงทุน เนื่องจากตลาด Forex เป็นตลาดที่มีการใช้ leverage หรือการยืมเงินเพื่อเพิ่มมูลค่าในการซื้อขาย เมื่อนักลงทุนใช้ leverage การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยในตลาดสามารถนำไปสู่การเสียเงินได้มาก
นอกจากนี้ตลาด Forex ยังส่งผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น ข้อมูลเศรฐกิจมาโคร, การเปลี่ยนแปลงนโยบายธนาคารกลาง, ความลังเลและความไม่แน่นอนในเหตุการณ์เศรฐกิจโลก, รวมถึงความไม่แน่นอนในภูมิภาคต่างๆ การตัดสินใจของนักลงทุนก็อาจจะต้องการข้อมูลและการวิเคราะห์ที่ซับซ้อน ดังนั้นการลงทุนในตลาด Forex ต้องมีการศึกษาและการเตรียมตัวอย่างดี และยังควรใช้วิธีการจัดการความเสี่ยงเพื่อป้องกันการเสียเงินเกินไปด้วย
สรุป
การเทรด Forex เป็นการลงทุนที่ซับซ้อนซึ่งเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินในระดับโลก มีปริมาณซื้อขายที่มากทำให้ตลาดนี้แตกต่างจากตลาดการเงินอื่น ๆ ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสในการทำกำไรที่สูงแต่ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องก็ต้องการกลยุทธ์และความเข้าใจที่ดีในการเทรด การเรียนรู้ต่อเนื่องและการจัดการความเสี่ยงที่มีวินัยเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับความสำเร็จของเทรดเดอร์ ควรระมัดระวังและทำการวิจัยเสมอก่อนที่จะเริ่มต้นการเทรด Forex