ftmo กับ mff ต่างกันอย่างไร
FTMO และ MFF (MyForexFund) เป็นสองกองทุนการลงทุนที่มีความแตกต่างกันในหลายด้าน ดังนี้
ราคาค่าสมัครสอบ
- FTMO: ค่าสมัครสอบค่อนข้างสูง และมีหลายระดับตามขนาดของบัญชีที่คุณต้องการจัดการ
- MFF: ค่าสมัครสอบส่วนใหญ่จะต่ำกว่า FTMO และมีข้อเสนอสำหรับนักเทรดที่มีความสามารถต่ำกว่า
เงื่อนไขการสอบ
- FTMO: มีเงื่อนไขการสอบที่ค่อนข้างเข้มงวด เช่น การทดสอบ FTMO Challenge และ FTMO Verification ซึ่งต้องผ่านไปในระยะเวลาที่กำหนดและยึดตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้
- MFF: เงื่อนไขการสอบมีความยืดหยุ่นมากกว่า FTMO และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของนักเทรด
เงินทุนที่ต้องการ
- FTMO: มีการกำหนดเงินทุนที่ต้องการสำหรับแต่ละขนาดของบัญชี เริ่มต้นจาก $10,000 และสูงสุดถึง $300,000 หรือมากกว่า
- MFF: มีความยืดหยุ่นในการกำหนดเงินทุนที่ต้องการและสามารถลงทุนในบัญชีตามต้องการของคุณ
ค่าธรรมเนียม
- FTMO: มีค่าธรรมเนียมสมัครสอบที่ค่อนข้างสูงและจะต้องชำระโดยล่วงหน้า
- MFF: ค่าธรรมเนียมสมัครสอบมีแบบเสียเพียงหลังจากที่คุณได้ทำกำไรในบัญชี
การตั้งขั้นต่ำในการเทรด
- FTMO: มีขั้นต่ำในการเทรดตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ใน FTMO Challenge และ FTMO Verification
- MFF: มีความยืดหยุ่นในการกำหนดขั้นต่ำในการเทรดและไม่จำเป็นต้องเทรดตามระยะเวลาที่กำหนด
จำนวนครั้งที่สอบ
- FTMO: จะสามารถทดสอบการเทรดได้หลายครั้งตามความต้องการ
- MFF: มีความยืดหยุ่นในการทดสอบและสามารถทดสอบใหม่หลังจากที่ผ่านไปได้
ส่วนแบ่งกำไร
- FTMO: ส่วนแบ่งกำไรมีการกำหนดตามรูปแบบ 70:30 หรือ 80:20 โดยตามขนาดของบัญชี
- MFF: ส่วนแบ่งกำไรมีความยืดหยุ่นและอาจมีข้อเสนอที่ดีกว่าสำหรับผู้ที่มีผลการเทรดที่ดี
เลเวอเรจ (Leverage)
- FTMO: มีเลเวอเรจที่จำกัดและไม่สามารถเลือกเลเวอเรจได้
- MFF: มีความยืดหยุ่นในการเลือกเลเวอเรจตามความต้องการของนักเทรด
การจำกัดความเสี่ยง (Drawdown – DD)
- FTMO: มีการจำกัดความเสี่ยงเงินทุนของคุณตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในการทดสอบ
- MFF: มีความยืดหยุ่นในการจัดการความเสี่ยงและความเสี่ยงสูงสุดที่ยอมรับ
ระยะเวลา
- FTMO: ระยะเวลาในการทดสอบและการเทรดมีเวลาที่กำหนดไว้
- MFF: มีความยืดหยุ่นในระยะเวลาและสามารถทดสอบและเทรดตามต้องการของคุณ
การจัดสรรค่าเงิน
- FTMO: เมื่อคุณผ่านการทดสอบและกลายเป็น FTMO Trader, คุณจะได้รับเงินทุนจาก FTMO มาบริหารพอร์ตตามขนาดบัญชีที่คุณเลือก ส่วนแบ่งกำไรจะถูกแบ่งตามรูปแบบที่กำหนดไว้
- MFF: คุณจะต้องลงทุนด้วยเงินของคุณเองในบัญชี MFF และสามารถจัดการกำไรและขาดทุนได้ตามความสะดวก
การให้คำแนะนำและการสนับสนุน
- FTMO: มีการให้คำแนะนำและการสนับสนุนที่เป็นมืออาชีพในการเทรด รวมถึงการวิเคราะห์ตลาดและโค้ชที่จะช่วยในการพัฒนาทักษะการเทรดของคุณ
- MFF: ให้คำแนะนำและการสนับสนุนในการเทรดแต่มีระดับความช่วยเหลือที่หลากหลายกับรูปแบบและแพลตฟอร์มต่าง ๆ
การเก็งกำไรเสริม
- FTMO: มีโปรแกรมแบบ Referral ที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างรายได้เสริมจากการแนะนำคนอื่นให้สมัคร FTMO
- MFF: มีโปรแกรมพันธมิตรที่อนุญาตให้คุณร่วมมือกับ MFF เพื่อแบ่งปันรายได้
ระยะเวลาของการลงทุน
- FTMO: ระยะเวลาการลงทุนใน FTMO มีกำหนดเวลาและจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด
- MFF: คุณสามารถจัดการการลงทุนของคุณโดยไม่มีระยะเวลากำหนดและมีความยืดหยุ่นในการเพิ่มหรือลดเงินทุนตามต้องการ
ความเสี่ยงและความเป็นส่วนตัว:
- FTMO: FTMO จะรับความเสี่ยงในการลงทุนและมีการตรวจสอบและเฝ้าระวังความเป็นส่วนตัวของบัญชีการลงทุน
- MFF: ความเสี่ยงและความเป็นส่วนตัวของบัญชีการลงทุนจะอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของคุณเอง
อื่น ๆ
- FTMO และ MFF มีเป้าหมายและแนวคิดการลงทุนที่แตกต่างกัน และความเหมาะสมของแต่ละกองทุนอาจขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและความต้องการของนักเทรดแต่ละคน
ftmo คืออะไร
FTMO คือ บริษัทการค้ารายใหญ่ในยุโรปที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงปรากฏสาธารณรัฐเช็ก เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการบริหารความเสี่ยงและการซื้อขายที่มีระเบียบวินัยสูงสุด เปิดตัวเมื่อปี 2017 เพื่อเสริมสร้างโอกาสให้นักเทรดที่มีความสามารถในการเทรดสกุลเงิน สินค้าเอกชน และสินค้าอื่น ๆ ได้มีโอกาสเข้าถึงเงินทุนเพื่อจัดการซื้อขายและกำไรสูง โดยโครงการนี้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการหาเงินทุนมาให้นักเทรดนำไปบริหารจัดการ โดยนักเทรดสมัครเข้าร่วมโครงการนี้จะต้องสอบผ่านเงื่อนไขและทดสอบการเทรดตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้
หากสอบผ่าน พวกเขาจะได้รับเงินทุนและสามารถเทรดด้วยเงินทุนนี้ โดย FTMO จะแบ่งผลกำไรระหว่างนักเทรดและโครงการตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ โดยทั่วไปแล้วมีสัดส่วนของนักเทรดได้ 70% และ FTMO ได้ 30% ของกำไรที่ทำได้จากการเทรดนั้น ๆ โครงการนี้ได้รับความนิยมมากในวงการการเทรดและสนับสนุนนักเทรดที่มีทุนจำกัดในการเริ่มต้นให้มีโอกาสเข้าถึงเงินทุนมากขึ้นและทำกำไรในการเทรดหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำกว่ารูปแบบการลงทุนอื่น ๆ อย่างใน Hedge Fund หรือบริษัทการลงทุนใหญ่ ๆ ที่มีข้อกำหนดและความซับซ้อนมากขึ้นในการลงทุน โดย FTMO มุ่งเน้นให้ผลตอบแทนสูงและไม่ต้องประสงค์ให้นักเทรดมีการรับรู้รายละเอียดทางกฎหมายในการลงทุนมากนัก
นอกจากนี้ ความยืดหยุ่นในการเทรดด้วยเงินทุนของ FTMO ทำให้นักเทรดสามารถทำกำไรได้อย่างมีความเสี่ยงต่ำและเตรียมพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดการเงินใหญ่ ๆ ได้ดีมากขึ้น
mff คืออะไร
MFF (My Forex Funds) เป็นโครงการที่ให้การสนับสนุนเงินทุนให้แก่นักเทรดที่มีความสามารถในการเทรดตลาดการเงิน โดยผ่านการสอบคัดเลือกที่เข้มงวด นักเทรดที่สอบผ่าน MFF จะได้รับเงินทุนจากโครงการเพื่อนำไปใช้ในการเทรดตลาดทางการเงิน และผลกำไรที่ได้จากการเทรดนั้นจะถูกแบ่งส่วนให้กับโครงการตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ในข้อตกลง โดยอัตราการแบ่งส่วนของกำไรอาจเริ่มต้นที่ 50% และสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 90% ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างนักเทรดและโครงการ MFF
MFF มีแนวคิดในการสนับสนุนนักเทรดที่มีความสามารถในการเทรด โดยไม่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขหรือข้อกำหนดทางกฎหมายมากมาย อันที่สำคัญคือความสามารถในการทำกำไร โดยผ่าน MFF นักเทรดที่มีทุนจำกัดสามารถมีโอกาสเข้าถึงเงินทุนมากขึ้นและสร้างโอกาสในการลงทุนในตลาดการเงินได้ โดยไม่ต้องรับผิดชอบหรือรับรู้ความซับซ้อนในการลงทุนมากนัก การสอบของ MFF มีเงื่อนไขและกำหนดเพียงเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่เน้นการทำกำไรและความสามารถในการเทรดเป็นหลัก
เปรียบเทียงข้อมูลการสอบของ MFF (My Forex Funds) และ FTMO (Funding Talent Management & Optimization
การสอบของ MFF (My Forex Funds) และ FTMO (Funding Talent Management & Optimization) เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการสนับสนุนเงินทุนให้แก่นักเทรดที่มีความสามารถในการเทรดตลาดการเงิน แต่มีความแตกต่างกันในแง่บางประการดังนี้
MFF (My Forex Funds)
- MFF เป็นโครงการที่สนับสนุนเงินทุนให้กับนักเทรดผ่านการสอบ MFF โดยผู้ที่สอบผ่านจะได้รับเงินทุนจากโครงการเพื่อนำมาใช้เทรด
- การแบ่งสัดส่วนกำไรเริ่มต้นอยู่ที่ 50% – 80% โดยสามารถแบ่งได้สูงสุดถึง 90% ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและการต่อรอง
- MFF สามารถให้โอกาสกับนักเทรดที่มีความสามารถมาเทรดและทำกำไรโดยไม่ต้องลงทุนเงินของตนเอง
FTMO (Funding Talent Management & Optimization)
- FTMO เป็นโครงการบริการจัดสรรเงินทุนให้กับนักเทรดที่มีความสามารถมาทำกำไรให้กับบริษัทผ่านการสอบ
- การแบ่งสัดส่วนกำไรเริ่มต้นที่ 80% และสามารถแบ่งได้สูงสุดถึง 90% ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและการต่อรอง
- FTMO ยังมีการสนับสนุนและคำแนะนำที่มีคุณภาพสำหรับนักเทรด, รวมถึงการวิเคราะห์ตลาดและโค้ชที่ช่วยในการพัฒนาทักษะการเทรดของนักเทรด
ตารางเปรียบเทียบกำไรที่จะได้รับ MFF และ FTMO
กำไร | MFF | FTMO |
เริ่มต้น | 50% – 80% | 80% |
สูงสุด | 90% | 90% |
รวมถึงความแตกต่างของทางกองทุน MFF ที่มุ่งเน้นการสอบและการบริหารเงินทุนในรูปแบบแบ่งกำไรตั้งแต่ 50% ขึ้นไป และ FTMO ที่มุ่งเน้นการบริหารและการสนับสนุนนักเทรดในการทำกำไรและแบ่งสัดส่วนกำไรตั้งแต่ 80% ขึ้นไป ซึ่งทั้งสองโครงการนี้มุ่งเน้นการพัฒนานักเทรดให้กลายเป็นนักเทรดมืออาชีพโดยให้การสนับสนุนและโอกาสในการเทรดในระดับสูง
เงื่อนไขเปรียบเทียบ MFF และ FTMO
เงื่อนไขการสอบ | MFF | FTMO |
ระยะเวลาที่ใช้ในการสอบ | 3 เดือน | ระยะที่ 1: 30 วัน, ระยะที่ 2: 60 วัน (รวมเป็น 3 เดือน) |
เป้าหมายกำไร | ไม่มี | $1,000 |
ขาดทุนได้สูงสุด | $500/วัน (ไม่เกิน $1,200/การสอบ) | $500/วัน (ไม่เกิน $1,000/การสอบ) |
ระยะเวลาที่ต้องทำการซื้อขาย | 3 ครั้ง/สัปดาห์ | 10 ครั้ง/เดือน |
Leverage | 9:20 | 2:40 |
ราคาค่าสมัครสอบ | ไม่มีค่าสมัคร | ค่าสมัครขั้นต่ำต้องเลือก Normal: $155, Aggressive: $540 |
เป้าหมายกำไร | ไม่มี | $1,000 |
ขาดทุนได้สูงสุด | $500/วัน (ไม่เกิน $1,200/การสอบ) | $500/วัน (ไม่เกิน $1,000/การสอบ) |
ระยะเวลาที่ต้องทำการซื้อขาย | 3 ครั้ง/สัปดาห์ | 10 ครั้ง/เดือน |
Leverage | 9:20 | 2:40 |
ระยะเวลาการตรวจสอบ | ไม่ระบุ | ระยะที่ 1: 30 วัน, ระยะที่ 2: 60 วัน |
ส่วนแบ่งกำไรเริ่มต้น | 50% – 80% | 80% |
ส่วนแบ่งกำไรสูงสุด | 90% | 90% |
ตารางเปรียบเทียบขนาดบัญชีที่ใช้สอบ MFF และ FTMO
MFF (My Forex Funds) เป็นโครงการสนับสนุนเงินทุนให้แก่นักเทรดผ่านการสอบ MFF โดยมีขนาดบัญชีที่แตกต่างกันตามระดับความสามารถของผู้สมัคร มี 3 ระดับหลัก ดังนี้
- บัญชี Rapid – ขนาด $10,000 ถึง $100,000
- บัญชี Evaluation – ขนาด $5,000 ถึง $300,000
- บัญชี Rapid – ขนาด $2,000 ถึง $50,000
FTMO เป็นโครงการบริการจัดสรรเงินทุนให้กับนักเทรดผ่านการสอบ FTMO และมีขนาดบัญชีที่แตกต่างกันตามระดับความสามารถของผู้สมัครด้วย โดยมี 2 ระดับหลัก ดังนี้
- บัญชี Normal – ขนาด $10,000 ถึง $200,000
- บัญชี Aggressive – ขนาด $10,000 ถึง $100,000
ตารางเปรียบเทียบอัตราค่าสมัครสอบระหว่าง MFF และ FTMO
MFF (My Forex Funds) มีอัตราค่าสมัครสอบที่แตกต่างกันตามระดับบัญชีที่ผู้สมัครเลือก ราคาค่าสมัครอยู่ระหว่าง $49 ถึง $2,450 โดยหากผู้สมัครสอบผ่าน พวกเขาสามารถขอคืนค่าสมัครได้
FTMO ก็มีอัตราค่าสมัครสอบที่แตกต่างกันตามประเภทบัญชีที่ผู้สมัครเลือก ราคาค่าสมัครระหว่าง €155 ถึง €1,080 (หรือประมาณ $161 – $1,121) และหากผู้สมัครสอบผ่าน พวกเขาสามารถขอคืนค่าสมัครได้
ดังนั้น อัตราค่าสมัครสอบของ FTMO จะมีราคาสูงกว่า MFF โดยรวม แต่ทั้งคู่มีระบบการคืนค่าสมัครหลังสอบผ่านเมื่อผู้สมัครประสบความสำเร็จในการสอบของพวกเขาและได้รับเงินทุนในบัญชีเทรดของโครงการ โดยค่าสมัครสอบเป็นค่าใช้จ่ายแรกเสมือนการลงทุน เพื่อรับโอกาสเทรดด้วยเงินทุนจริงในภายหลังในกรณีที่ผู้สมัครสอบผ่านสำเร็จ
พลตฟอร์มที่รองรับการสอบ MFF และ FTMO
- การสอบ MFF ใช้แพลตฟอร์ม MT4 และ MT5
- การสอบ FTMO ใช้แพลตฟอร์ม MT4, MT5, และ cTrader