เนื่องจากในอดีต ทองคำเป็นวัตถุมีค่าที่เคยถูกใช้ตรึงกับมูลค่าของสกุลเงินต่างๆ หรือเรียกว่า Gold Standard แต่ด้วยเกิดเหตุการณ์และข้อจำกัดต่างๆ จึงทำให้ยกเลิกการตรึงค่าดังกล่าว แล้วกลับมาใช้ค่าเงินลอยตัวจวบจนยุคปัจจุบัน แท้จริงแล้ว Gold Standard คืออะไร เหตุใดจึงยกเลิก บทความนี้จะเล่าให้ฟัง

Gold Standard คืออะไร

Gold Standard หรือ มาตรฐานทองคำ เป็นระบบการเงินที่มูลค่าของสกุลเงินของประเทศเชื่อมโยงกับทองคำโดยตรง โดยที่ประเทศต่างๆ ตกลงที่จะแปลงเงินกระดาษเป็นทองคำในปริมาณคงที่ ประเทศที่ใช้มาตรฐานทองคำจะกำหนดราคาทองคำ และซื้อ, ขายทองคำในราคาดังกล่าว หรือก็คือเงินจะถูกพิมพ์ออกมาโดยเลื่อนลอยไม่ได้ แต่ต้องมีทองคำเป็นตัวหนุนหลัง

สืบเนื่องจากสมัยก่อนนั้นยุโรปยังไม่มีทองคำ แต่ใช้แร่โลหะต่างๆมาหลอมเป็นเหรียญออกมาใช้ แต่ต่อมาเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้มูลค่าของแร่โลหะ หรือเหรียญเงินถูกลดความนิยมลง ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ค้นพบทองคำจำนวนมากขึ้น จึงได้เริ่มใช้ทองคำเข้ามาเชื่อมโยงกับมูลค่าเงินของแต่ละประเทศ

ประวัติศาสตร์ Gold Standard

  • ในปี 1819 อังกฤษเป็นประเทศแรกที่นำ Gold Standard มาใช้อย่างเป็นทางการ โดยใช้ทองคำเป็นหลักประกันค่าเงินกับธนบัตร ซึ่งจะตรงกับช่วงเวลาที่แต่ละประเทศเริ่มค้นพบทองคำเป็นจำนวนมากขึ้น หรือยุคตื่นทองนั่นเอง (Gold Rush) และเนื่องจากอังกฤษเป็นเจ้าอาณานิคม ทำให้ Gold Standard ของอังกฤษเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ขยายไปถึงออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา อินเดีย
  • ขณะที่ปี 1864 สหรัฐอเมริกาสถาปนาสกุลเงิน US Dollar และใช้ Gold standard เป็นหลักประกันตามสเปน
  • ปี 1914 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 อยู่ในสภาพไม่แน่นอนระหว่างสงคราม คือไม่ได้ยกเลิกใช้ Gold Standard ก็จริง แต่เกิดการขาดความเชื่อมันใน Gold Standard แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการสิ่งที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อมาพยุงเศรษฐกิจทั่วโลก
  • อังกฤษหยุดใช้ Gold Standard ในปี 1931 หรือก็คือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่วนสหรัฐอเมริกาหยุดใช้ Gold Standard ในปี 1933 จากผลพวงสภาวะสงคราม (แค่หยุด แต่ยังไม่ยกเลิก)
  • ปี 1944 เกิดข้อตกลงเบรตตันวูดส์ (The Bretton Woods Agreement) คือ ได้นำระบบมาตรฐานทองคำมาใช้ โดยเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐให้เป็นสกุลเงินสำรองระหว่างประเทศ ระบุว่าดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสำรองหลักและดอลลาร์สามารถแปลงเป็นทองคำได้ในอัตราคงที่ที่ 35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
  • ในที่สุด ในปี 1971 ประธานาธิบดี ริชาร์ด เอ็ม. นิกสัน ประธานาธิบดีคนที่ 37 ของสหรัฐอเมริกา ประกาศยกเลิกการแปลงเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นทองคำ หรือยกเลิกข้อตกลงเบรตตันวูดส์

ในขณะที่อุปทานทองคำยังคงลดลงตามการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ปอนด์สเตอร์ลิงของอังกฤษและดอลลาร์สหรัฐก็กลายมาเป็นสกุลเงินสำรองของโลกแทน

ทำไม Gold Standard จึงถูกยกเลิก

ในสภาวะปกติการมีทองคำเป็นหลักประกันการตรึงค่าเงินก็ไม่มีปัญหาใดๆ แต่ในสภาวะพิเศษอย่างเช่นช่วงสงคราม เกิดสภาวะสภาพคล่องหายไปจากระบบ เนื่องจากแต่ละประเทศก็ต้องการเก็บทองคำไว้ในประเทศของตนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการซื้อสินค้าหรือแม้แต่อาวุธที่จำเป็นในยามสงคราม กระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้น หลายประเทศในยุโรปต้องเว้นวรรคการใช้ Gold Standard

หรือในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ รัฐบาลมักจะใช้นโยบายการเงินแบบขยายตัวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ภายใต้ระบบมาตรฐานทองคำ การทำเช่นนี้จะทำได้ยากเนื่องจากปริมาณทองมีจำกัด

ระบบเงินที่โลกในยุคปัจจุบันใช้

ปัจจุบันมีการใช้เงินเฟียต (Fiat Money) เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD), เงินบาท (THB), ยูโร (EUR), เยนญี่ปุ่น (JPY)

เงินเฟียต เป็นสกุลเงิน ที่รัฐบาลออกให้ซึ่งไม่ได้รับการหนุนหลังด้วยโลหะมีค่า ไม่ผูกกับทองหรือสินทรัพย์ใดโดยตรง โดยรัฐบาลที่ออกจะกำหนดให้เงินเฟียตเป็น เงิน ที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายและได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาล หรือสรุปก็คือระบบที่ เงินมีมูลค่าเพราะ “รัฐบาลรับรอง” และ ประชาชนยอมรับ ว่าสามารถใช้แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการได้

จุดเด่นของ Fiat Money เช่น

  • มีความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ : รัฐสามารถพิมพ์เงินเพิ่ม กระตุ้นเศรษฐกิจหรือลดผลกระทบจากวิกฤต
  • สนับสนุนการเติบโต : ไม่ถูกจำกัดด้วยทองคำ ทำให้ขยายปริมาณเงินตามกิจกรรมตามเศรษฐกิจได้
  • ใช้งานสะดวก : ไม่ต้องพกทองหรือโลหะมีค่า แลกเปลี่ยนง่าย

โดยสิ่งที่เป็นหลักค้ำประกัน หนุนหลังแทนทองคำนั้นคือ เงินตราสำรองต่างประเทศ แต่ไม่ต้องใช้ทองคำอีกต่อไป (อาจมีทุนสำรองระหว่างประเทศเป็นทองคำอยู่บ้าง)

ในด้านการเงินระหว่างประเทศ มีการใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว คือสกุลเงินของแต่ละประเทศนั้นจะเคลื่อนไหวไปตามกลไกตลาด หรืออุปสงค์ อุปทานอย่างอิสระ

บทสรุป

แม้ว่า Gold Standard จะถูกยกเลิกไปนานแล้ว และวิธีการกำหนดมูลค่าสกุลเงินจะถูกปรับเปลี่ยนไปให้เหมาะสมตามยุคตามสมัย แต่เพื่อให้เข้าใจวิวัฒนาการของเงิน และนโยบายการเงินในอดีต จะเห็นว่าระบบมาตรฐานทองคำทำให้รัฐบาลไม่สามารถพิมพ์เงินได้เกินทองคำที่มี ทองคำจึงเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง(Hedge) เช่น ป้องกันเงินเฟ้อหรือค่าเงินผันผวนได้ดีในระดับหนึ่งนั่นเอง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก