Ichimoku Kinko Hyo คืออะไร
Ichimoku Kinko Hyo หรือ “Ichimoku” ในภาษาอังกฤษ คือ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่สร้างบนกราฟแท่งเทียน เพื่อช่วยในการพยากรณ์ทิศทางของราคาหุ้นหรือสินทรัพย์อื่นๆ ในอนาคต ผู้พัฒนาเครื่องมือนี้ คือ Goichi Hosoda ชาวญี่ปุ่นในช่วงปลายปี 1930 และมีชื่อเสียงว่า “Ichimoku Sanjin” หรือ “ผู้ชายที่มองเห็นจากเขา” สำหรับการพัฒนาเทคนิคนี้ใช้เวลามากกว่า 30 ปี จึงถึงเป็นที่รู้จักกันในปัจจุบัน และเครื่องมือนี้ถูกเผยแพร่แก่สาธารณชนในปี 1960
ชื่อ “Ichimoku Kinko Hyo” สามารถแปลว่า “ความสมดุลของราคาหุ้นที่เราสามารถมองเห็นในทันที” ซึ่งมักจะเรียกอีกอย่างว่า “One Glance Cloud Chart” ชื่อนี้มาจากลักษณะพิเศษของกราฟ Ichimoku ที่มีลักษณะเป็นเมฆหรือ “Clouds”
Ichimoku ใช้แนวคิดของการวิเคราะห์ทางเทคนิคผ่านกราฟแท่งเทียน และใช้เส้น Moving Average ในการทำนายแนวโน้มราคา เรียกว่า “เทรนด์” ความเปลี่ยนแปลงของราคาสามารถอ่านได้จากกราฟแท่งเทียน เส้นของ Ichimoku จะถูกสร้างด้วยการคำนวณค่าเฉลี่ยของราคาสูงสุดและราคาต่ำสุด 50% ซึ่งต่างจากการคำนวณเส้น Moving Average ทั่วไปที่ใช้ราคาปิดเป็นหลัก ในการวิเคราะห์ Ichimoku จะยึดปัจจัยเวลาในการตัดสินใจด้วย ซึ่งคล้ายคลึงกับแนวคิดการซื้อขายของ William Delbert Gann
ใน Ichimoku Kinko Hyo มี 5 ส่วนหลัก
- Tenkan Sen (เท็นกัง เซ็น): หรือ “เส้นเทนกัน” ถูกคำนวณโดยเฉลี่ยระหว่างราคาสูงสุดและต่ำสุดของ 9 ช่วงเวลาที่ผ่านมา (โดยทั่วไป) ถูกมองเป็นเส้นสัญญาณแรก และมักใช้เป็นindicatorการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มทางเศรษฐกิจ
- Kijun Sen (คิจุน เซ็น): หรือ “เส้นคิจุน” คำนวณจากราคาสูงสุดและต่ำสุดของ 26 ช่วงเวลาที่ผ่านมา เส้นนี้มักใช้เป็นindicatorของการเคลื่อนที่ของราคาในอนาคต
- Senkou Span A (เซ็นโคว สแปน เอ): ถูกคำนวณโดยเฉลี่ยระหว่างเส้นเทนกันและเส้นคิจุน และถูกพล็อตข้างหน้า 26 ช่วงเวลา เส้นนี้ พร้อมกับ Senkou Span B, สร้าง “Kumo” หรือ “Cloud” ที่มักใช้เป็นindicatorของการรับรองของแนวโน้ม
- Senkou Span B (เซ็นโคว สแปน บี): ถูกคำนวณโดยเฉลี่ยระหว่างราคาสูงสุดและต่ำสุดของ 52 ช่วงเวลาที่ผ่านมา และถูกพล็อตข้างหน้า 26 ช่วงเวลา พร้อมกับ Senkou Span A, สร้าง “Kumo” หรือ “Cloud”
- Chinkou Span (ชินโคว สแปน): นี่คือราคาปิดที่ถูกพล็อตย้อนหลัง 26 ช่วงเวลา มันเป็นindicatorการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
เส้นเหล่านี้ร่วมกันสร้างเป็นระบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เรียกว่า Ichimoku Cloud ซึ่งมีเป้าหมายที่จะช่วยในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคา และ ช่วยระบุสัญญาณซื้อหรือขาย
การเรียกใช้อินดิเคเตอร์ Ichimoku
- เข้าไปที่ โปรแกรม MetaTrader 4 หรือโปรแกรม MetaTrader 5
- เข้ามาที่แท็บเมนู Insert > Indicators > Trend > Ichimoku Kinko Hyo
- ค่าดั่งเดิมในโปรแกรมแรกเริ่มมีค่า Tenkan-sen: 9, Kijun-sen: 26, Senkou Span B: 52 ให้กด “OK”
- ค่าแรก Tenkan-sen: 9 คือ เส้นเฉลี่ยค่าคณิตหรือเส้น SMA โดยมีค่าเท่ากับ 9 หรือนำราคามาคำนวณย้อนหลัง 9 วัน
- ค่าที่สอง Kijun-sen: 26 คือ เส้นเฉลี่ยค่าคณิตหรือเส้น SMA โดยมีค่าเท่ากับ 26 หรือนำราคามาคำนวณย้อนหลัง 26 วัน
สูตรกับการคำนวณ
การคำนวณองค์ประกอบ Ichimoku เกี่ยวข้องกับสูตรต่อไปนี้:
- Tenkan-sen (Conversion Line): (สูง 9 ช่วง + ต่ำสุด 9 ช่วง) / 2
- Kijun-sen (เส้นฐาน): (สูง 26 ช่วง + ต่ำสุด 26 ช่วง) / 2
- Senkou Span A (ช่วงนำ A): (Tenkan-sen + Kijun-sen) / 2, วางแผน 26 งวดล่วงหน้า
- Senkou Span B (ช่วงนำ B): (สูง 52 ช่วง + ต่ำสุด 52 ช่วง) / 2, วางแผนล่วงหน้า 26 ช่วง
- Chikou Span (Lagging Span): ราคาปิดปัจจุบัน วางแผนย้อนหลัง 26 งวด
ช่องว่างระหว่าง Senkou Span A กับ B ก่อตัวเป็น “เมฆ” หรือ “Kumo” ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบ Ichimoku
ซื้อกับขายให้ได้กำไรโดยใช้ Ichimoku
ระบบ Ichimoku มีสัญญาณต่างๆ สำหรับการซื้อกับขาย
ซื้อสัญญาณ
- ราคาข้าม Kijun-Sen: หากราคาข้าม Kijun-sen จากด้านล่าง อาจเป็นสัญญาณขาขึ้น
- หากราคาเคลื่อนจากด้านล่างขึ้นไปเหนือเมฆ มันเป็นสัญญาณที่ดี
- Kumo Twist หาก Senkou Span A ข้าม Senkou Span B จากด้านล่าง อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มขาขึ้น
ขายสัญญาณ
- หากราคาข้าม Kijun-sen จากด้านบน อาจเป็นสัญญาณขาลง
- หากราคาเคลื่อนจากด้านบนไปยังด้านล่างของเมฆ มันเป็นสัญญาณขาลง
- Kumo Twist หาก Senkou Span A ข้าม Senkou Span B จากด้านบน มันอาจจะส่งสัญญาณถึงแนวโน้มขาลง
เทรดให้กำไรด้วย Ichimoku Kinko Hyo
1. เส้นสีแดง Tenkan Sen (เท็นกัง เซ็น)
- เส้นสีแดง Tenkan Sen คือเส้นเฉลี่ยค่าคณิตหรือเส้น SMA โดยมีค่าเท่ากับ 9 หรือนำราคามาคำนวณย้อนหลัง 9 วัน
2. เส้นสีน้ำเงิน Kijun Sen (คิจุน เซ็น)
- เส้นสีน้ำเงิน Kijun Sen คือ เส้นเฉลี่ยค่าคณิตหรือเส้น SMA โดยมีค่าเท่ากับ 26 หรือนำราคามาคำนวณย้อนหลัง 26 วัน
3. ก้อนเมฆสีชมพู Senkou Span A (เซ็นโคว สแปน เอ) ชื่อบนโปรแกรม MT4 คือ Down Kumo
- ก้อนเมฆสีชมพู Senkou Span A
- ถ้าหากก้อนเมฆเป็นสีชมพู หมายความว่าราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง
4. ก้อนเมฆสีส้ม Senkou Span B (เซ็นโคว สแปน บี) ชื่อบนโปรแกรม MT4 คือ Up Kumo
- ก้อนเมฆสีส้ม Senkou Span B
- ถ้าหากก้อนเมฆเป็นสีส้ม หมายความว่าราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
- ยิ่งก้อนเมฆมีความหนามากเท่าไหร่อาจจะบอกได้ว่าราคานั้นมีการเคลื่อนที่ในแนวโน้มที่แข็งแรง
5. เส้นสีเขียว Chinkou Span (ชินโคว สแปน)
- เส้นสีเขียวเป็นเส้นที่บ่งบอกว่าราคานั้นเคลื่อนที่ในแนวโน้มอย่างแข็งแรงหรือไม่
- สมมุติว่าราคามีการเคลื่อนที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแรง เส้นสีเขียวจะมีการปรับตัวขึ้นและอยู่ห่างจากราคาจริงมาก
- ถ้าหากราคาอยู่ในแนวโน้ม Sideway เส้นสีเขียวนี้จะแทบวิ่งติดกับกราฟราคา
วิธีใช้ Ichimoku Kinko Hyo เทรดให้กำไร
1. เส้นสีเขียว Chinkou Span
- Chinkou Span สีเขียวที่อยู่บนกราฟ สามารถเป็นindicatorความแข็งแรงของแนวโน้มราคา
- ถ้า Chinkou Span ห่างจากกราฟราคามาก มันบ่งบอกถึงแนวโน้มที่แข็งแรง
- แต่หาก Chinkou Span อยู่ใกล้หรือติดกับกราฟราคานั่นหมายความว่าแนวโน้มไม่มีความแข็งแรงหรืออาจเรียกว่าราคาอยู่ในสภาวะ Sideway หรือราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางทิศทางในแนวตั้ง
2. หากก้อนเมฆ Senkou Span A และ Senkou Span B
- หากเป็นสีส้มหมายความว่าราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
- หากเป็นสีชมพูหมายความว่าราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง
- ถ้าหากก้อนเมฆยิ่งหนาเท่าไหร่หมายความว่าราคานั้นมีการเคลื่อนที่ในแนวโน้มที่แข็งแรง
- สามารถใช้ก้อนเมฆนี้เป็นแนวรับแนวต้านได้
3. เส้นสีแดง Tenkan Sen และ เส้นสีน้ำเงิน Kijun Sen
- หากเส้นสีแดงอยู่ข้างบนเส้นสีน้ำเงินราคานั้นอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
- หากเส้นสีน้ำเงินนั้นอยู่ข้างบนเส้นสีแดงหมายความว่าราคานั้นอยู่ในแนวโน้มขาลง
ข้อดีข้อเสีย Ichimoku Kinko Hyo
ข้อดี
- Ichimoku Kinko Hyo ไม่เพียงแค่เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคเพียงตัวเดียว แต่ที่สำคัญคือมันครอบคลุมหลายปัจจัยของการวิเคราะห์ตลาด รวมถึงการทำนายราคา การกำหนดเทรนด์ และการระบุระดับรับรองและต้านทาน
- Ichimoku Kinko Hyo มีความสามารถในการระบุแนวโน้มราคา ทั้งแนวโน้มระยะสั้น, ระยะปานกลาง, และระยะยาว ทำให้ผู้ค้าสามารถปรับปรุงกลยุทธ์การค้าของตนเองได้ให้เหมาะสมกับแนวโน้มปัจจุบัน
- สามารถใช้ เพื่อสร้างสัญญาณค้าที่รวดเร็วและแม่นยำ หากต้องการค้าในระยะสั้นๆ หรือต้องการสัญญาณการค้าที่มีการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา
- ช่วยให้ผู้ค้าสามารถตัดสินใจการค้าที่เข้มข้นและมีสภาพคล่องที่ดี โดยช่วยลดความไม่แน่นอนและช่วยให้ผู้ค้ามั่นใจมากขึ้นในการตัดสินใจ
- มีความยืดหยุ่นสูง ผู้ค้าสามารถปรับเครื่องมือให้เหมาะสมกับสไตล์การค้าของตนเอง, ระยะเวลาที่ต้องการค้า และการตั้งค่าต่างๆ ได้
ข้อเสีย
- การวิเคราะห์ Ichimoku Kinko Hyo อาจจะซับซ้อนและยากต่อการทำความเข้าใจเมื่อเทียบกับตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่นๆ เนื่องจากมีหลายส่วนที่ต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจ
- แม้ว่า Ichimoku Kinko Hyo จะสามารถทำนายแนวโน้มของราคา แต่การทำนายนั้นไม่ได้แม่นยำทุกครั้ง นักค้าอาจจะต้องรับประสบการณ์การค้าที่ไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง
- กับการค้าในตลาดแต่ละประเภทสามารถทำได้ยาก การปรับค่าพารามิเตอร์ให้เหมาะสมจำเป็นต้องมีความรู้และความเข้าใจทางเทคนิคอย่างลึกซึ้ง
- เนื่องจากเป็นตัวชี้วัดที่อ้างอิงจากราคาในอดีต ดังนั้นการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาในปัจจุบันอาจจะล่าช้า เป็นเหตุให้นักค้าพลาดโอกาสในการซื้อขายในบางครั้ง
- หากตลาดไม่มีแนวโน้มราคาที่ชัดเจน (ตลาด Sideway) ตัวชี้วัด Ichimoku Kinko Hyo อาจจะไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากตัวชี้วัดนี้ถูกออกแบบมาสำหรับตลาดที่มีแนวโน้ม
บทสรุป
Ichimoku Kinko Hyo หรือที่เรียกสั้นๆว่า “Ichimoku” เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีฟังก์ชั่นครอบคลุมและสามารถนำเสนอข้อมูลที่ลึกซึ่งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด แม้ว่าตัวมันจะดูน่าเกรงขามในการมองเห็นครั้งแรก แต่ความรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้ Ichimoku อย่างมีประสิทธิภาพสามารถปรับปรุงและทำให้กระบวนการตัดสินใจของผู้ค้าเป็นไปอย่างมาก
เช่นเดียวกับทุกเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค การรวม Ichimoku กับตัวชี้วัดอื่น ๆ และการจัดการความเสี่ยงที่มีแผนการชัดเจนสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากตลาดฟอเร็กซ์ ดังนั้น Ichimoku ไม่เพียงแค่เป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าในการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่ยังช่วยให้ผู้ค้าสามารถทำการวิเคราะห์และตัดสินใจได้ด้วยความมั่นใจมากขึ้น