Limit Order คืออะไร
Limit order คือ การกำหนดราคาที่ต้องการซื้อหรือขายสินทรัพย์โดยที่นักลงทุนสามารถตั้งราคาซื้อที่ต่ำกว่าราคาปัจจุบันหรือตั้งราคาขายที่สูงกว่าราคาปัจจุบันหากราคาในตลาดเคลื่อนไปที่จุดที่กำหนดสินทรัพย์จะถูกซื้อหรือขายตามราคาที่ตั้งไว้การใช้ Limit order นับถือว่าเป็นการเทรดแบบ “กลับตัว” ซึ่งหมายถึงราคาสินทรัพย์จะถึงจุดที่ต้องการแล้วกลับตัวเพื่อสะท้อนทิศทางของราคาการ Pending Limit Order เป็นการรอการดำเนินการตามคำสั่งที่ถูกตั้งขึ้นซึ่งประกอบไปด้วย Buy Limit และ Sell Limit Order ซึ่งเน้นที่ความเคลื่อนไหวของราคาที่ไปถึงและกลับตัวทำให้เหมาะสมกับกลยุทธ์การเทรดแบบกลับตัวในขณะที่ Stop order ใช้สำหรับกลยุทธ์การเทรดแบบ “Break Out” หรือการเคลื่อนไหวของราคาที่พุ่งไปในทิศทางเดียวแบบต่อเนื่อง
Limit order เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักลงทุนที่ต้องการควบคุมราคาสินทรัพย์ในการซื้อขายให้มากที่สุด ผ่านการตั้งราคาที่ต้องการซื้อหรือขายล่วงหน้า ในบางครั้งนักลงทุนอาจเห็นโอกาสทางเทคนิคจากกราฟและต้องการที่จะสั่งซื้อเมื่อราคาถึงจุดที่ต้องการ หรือต้องการจะป้องกันความเสี่ยงจากราคาที่วิ่งไปอย่างรวดเร็ว
โดยทั่วไป นักลงทุนที่ใช้ Limit order ต้องมีความรู้และวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อคาดการณ์ว่าราคาจะถึงจุดไหนและกลับตัว เช่น อาจจะมีระดับราคาที่เคยเป็นการรับ-ส่งในอดีตที่นักลงทุนต้องการซื้อหรือขาย เป็นต้น
แต่ด้วยความเป็นเครื่องมือที่ให้ความสะดวกและควบคุมในการกำหนดราคา มันก็มีข้อเสียเช่นกัน คือ หากราคาไม่เคลื่อนไปตามทิศทางที่นักลงทุนคาดหวัง คำสั่งที่ตั้งไว้อาจจะไม่ถูกดำเนินการทำให้นักลงทุนอาจพลาดโอกาสที่จะซื้อขายในราคาที่ดีที่สุดได้ ดังนั้น การใช้ Limit order ควรพิจารณาด้วยความรอบคอบและมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนฃ
Limit order แบ่งออกเป็นกี่ประเภท
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- Buy Limit
- Sell Limit
Buy Limit และ Sell Limit คืออะไร
Buy Limit และ Sell Limit คือ วิธีการในการสั่งซื้อหรือขายสินค้าที่มีในตลาดหลักทรัพย์และตลาดเงินต่างประเทศ ซึ่งให้นักลงทุนเป็นคนกำหนดราคาได้เอง ไม่ใช่ราคาที่กำลังแสวงหาในตลาดปัจจุบัน จุดเด่นของการใช้ Limit Order นี้คือนักลงทุนสามารถกำหนดราคาที่ต้องการเพื่อให้การซื้อขายเกิดขึ้นตามราคาที่ตั้งไว้ แทนการรอดูแนวโน้มของตลาดแล้วเปิดโพซิชั่นในตอนที่ตลาดเคลื่อนไหว
Buy Limit และ Sell Limit เป็นประเภทของ Limit order ที่นักลงทุนใช้ในการเทรดในตลาดหลักทรัพย์และตลาดเงินต่างประเทศ เพื่อกำหนดราคาที่ต้องการซื้อหรือขายล่วงหน้า รายละเอียดมีดังนี้
Buy Limit
เป็นคำสั่งซื้อที่กำหนดราคาต่ำกว่าราคาปัจจุบันของตลาด ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อให้สามารถซื้อเข้าเมื่อราคาถึงจุดที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ หรือจุดที่เห็นว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผลในการซื้อเข้า เช่น หากคู่เงิน EUR/USD มีราคาในตลาดปัจจุบันที่ 1.20000 แต่นักลงทุนต้องการซื้อเมื่อราคาถึง 1.10000 ก็สามารถตั้ง Buy Limit ไว้ที่ราคา 1.10000 ได้
Buy Limit เมื่อพูดถึง Buy Limit นักลงทุนต้องการซื้อสินค้าในราคาที่ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดจะเกิดการแกว่งไปในทิศทางลบแล้วกลับขึ้นมาใน
Sell Limit
เป็นคำสั่งขายที่กำหนดราคาสูงกว่าราคาปัจจุบันของตลาด ด้วยจุดประสงค์เพื่อให้สามารถขายออกเมื่อราคาถึงจุดที่นักลงทุนคาดการณ์หรือประเมินว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผลในการขายออก เช่น ถ้าคู่เงิน EUR/USD มีราคาในตลาดปัจจุบันที่ 1.20000 แต่นักลงทุนต้องการขายเมื่อราคาถึง 1.30000 ก็สามารถตั้ง Sell Limit ไว้ที่ราคา 1.30000 ได้
ในทางกลับกัน Sell Limit ใช้สำหรับการตั้งราคาขายที่สูงกว่าราคาปัจจุบัน ซึ่งเหมาะสำหรับเมื่อนักลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดจะเกิดการแกว่งไปในทิศทางบวกแล้วกลับตกลงมาในภายหลัง ตามกลยุทธ์ที่คาดการณ์ว่าตลาดจะเกิด “Peak” หรือการพุ่งขึ้นชั่วคราว
การใช้ Buy Limit และ Sell Limit ช่วยให้นักลงทุนมีโอกาสในการทำกำไรแม้ในสถานการณ์ที่ตลาดมีการเคลื่อนไหวแบบวิกฤติได้
วิธีการใช้งาน Limit Order
Limit Order เป็นเครื่องมือที่นักเทรดสามารถใช้เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรเมื่อต้องการเทรดโดยอาศัยเส้นแนวรับแนวต้าน จริงๆ แล้วความคิดภายหลังการใช้ Limit Order ก็คือการต้องการให้ตลาดเคลื่อนไหวมายังจุดที่เราต้องการและกลับไปในทิศทางที่ต้องการเพื่อทำกำไร มันเหมือนกับการเตรียมตัวรับลูกปิงปองในการเด้งกลับ ถ้าเราเล็งและตั้งค่าได้ถูกต้อง เราจะสามารถเก็บกำไรได้ตามที่ต้องการ
ด้วยคุณสมบัติพิเศษนี้ การใช้ Limit Order ในการเทรดเส้นแนวรับแนวต้านสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มาก เพราะเราไม่ต้องนั่งเฝ้ารอตลาดเคลื่อนไหวทุกวินาที แต่สามารถตั้งค่าแล้วไปทำงานอื่นๆ เมื่อตลาดเคลื่อนไหวถึงจุดที่เราต้องการ Limit Order จะทำงานให้เราอัตโนมัติ ดังนั้นถ้าคุณมีความเชี่ยวชาญและความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์แนวรับแนวต้าน การใช้ Limit Order จะทำให้คุณสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเทรดได้ โดยไม่ต้องนั่งเฝ้ารอหน้าจอตลอดเวลา ด้วยแนวคิดของการเด้งของลูกปิงปอง เพียงแค่ตั้งค่า Limit Order ให้เหมาะสมกับแผนการลงทุนและวิเคราะห์ตลาดของคุณ ก็จะทำให้การเทรดของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
มีวัตถุประสงค์การใช้งาน Limit Order
การใช้งาน Limit Order มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้นักเทรดสามารถซื้อหรือขายสินค้าทางการเงินในราคาที่ต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องนั่งเฝ้ารอหน้าจอตลอดเวลา เมื่อตลาดเคลื่อนไปที่ราคาที่ต้องการ คำสั่งของคุณจะถูกเปิดอัตโนมัติ นี่คือรายละเอียดวิธีการใช้งาน Limit Order
- เลือกราคาที่ต้องการ: ก่อนที่คุณจะตั้ง Limit Order คุณต้องตัดสินใจว่าต้องการซื้อหรือขายในราคาเท่าไหร่ นักเทรดส่วนใหญ่จะใช้การวิเคราะห์เชิงเทคนิค เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับราคาที่เหมาะสม
- ตั้งค่า Limit Order: เมื่อคุณได้ตัดสินใจเรื่องราคาแล้ว คุณสามารถเข้าไปในแพลตฟอร์มการเทรดของคุณ แล้วเลือกคำสั่ง Limit Order จากนั้น ป้อนราคาที่คุณต้องการ
- ระบุปริมาณ: ระบุปริมาณการซื้อหรือขาย ตามที่คุณต้องการ ในบางแพลตฟอร์ม คุณอาจจะต้องป้อนจำนวนเงินที่ต้องการลงทุน แต่บางแพลตฟอร์มอาจจะต้องการจำนวนหน่วยของสินค้าที่คุณต้องการซื้อหรือขาย
- ตรวจสอบคำสั่ง: เมื่อคุณได้ระบุรายละเอียดที่ต้องการทั้งหมดแล้ว ควรที่จะตรวจสอบคำสั่งของคุณอีกครั้งเพื่อแน่ใจว่าทุกอย่างถูกต้อง
- ส่งคำสั่ง: เมื่อตรวจสอบแล้วและคุณพอใจ คุณสามารถส่งคำสั่งของคุณ คำสั่งจะถูกจัดเก็บไว้ในระบบ และจะไม่ถูกเปิดเสมือนกับ Market Order จนกว่าราคาตลาดจะถึงราคาที่คุณตั้งไว้
- รอการเปิดคำสั่ง: เมื่อตลาดเคลื่อนไปถึงราคาที่คุณตั้ง Limit Order คำสั่งของคุณจะถูกเปิดอัตโนมัติ
- ตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit: ควรตั้งค่าเพื่อจำกัดความเสียหายจากการเทรด และในเวลาเดียวกัน ระบุราคาที่คุณต้องการเก็บกำไร
กลยุทธ์การเทรด
การเทรดด้วย Limit Order จากการรู้จักแนวรับและแนวต้านเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากการที่ราคามักจะมีแนวโน้มกลับตัวเมื่อมาถึงจุดเหล่านี้ แต่การใช้กลยุทธ์นี้ยังต้องพึงระวังหลายเรื่อง
- การวิเคราะห์แนวรับ-ต้าน: แนวรับ-ต้านไม่ได้เกิดขึ้นที่จุดใดจุดหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นการระบุระดับราคาที่ราคามีโอกาสสูงที่จะไม่สามารถข้ามไปได้ การระบุความแข็งแกร่งของแนวรับ-ต้านจำเป็นต้องพิจารณาจากประวัติราคาในอดีต และปริมาณการซื้อขาย
- การตรวจสอบ Confirmation: เพื่อความมั่นใจในความถูกต้องของแนวรับ-ต้าน หลายคนจะรอดูการยืนยันจากราคา เช่น การเกิด Candlestick pattern ที่แสดงถึงการกลับตัวของราคา
- การวาง Stop Loss: การวาง Stop Loss ในระดับที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อจำกัดความเสียหายเมื่อแนวรับ-ต้านถูกทะลุ ต้องระวังการวาง Stop Loss ใกล้เกินไปจนทำให้ถูกเตะออกจากตลาดโดยการสั่นของราคา
- ปรับตัวตามสถานะตลาด: แม้ว่าการเทรดแบบ Sideway จะเหมาะกับการใช้ Limit Order แต่ในตลาดที่มีเทรนด์เป็นทิศทางเดียว การเทรดโดยการต่อต้านเทรนด์อาจจะเป็นการเสี่ยง
- การประเมิน Risk:Reward: ต้องประเมินว่าการเริ่มต้นเปิดสถานะการเทรดมีความเสี่ยงน้อยกว่ากำไรที่คาดหวัง และว่ามันคุ้มค่ากับการเทรดในรายการนั้นหรือไม่
- การระมัดระวัง Breakout: เมื่อราคาทะลุแนวรับ-ต้าน มันอาจแสดงว่าตลาดกำลังเปลี่ยนแปลงสถานะ เช่น จากตลาด Sideway เป็นตลาดที่มีเทรนด์ การระมัดระวังการ Breakout ช่วยให้คุณป้องกันการเสียเงินจากการที่เชื่อว่าราคาจะกลับตัว แต่ราคาต่อเนื่องไปในทิศทางเดิม
คำอธิบายจากภาพประกอบตัวอย่าง Limit Order
การเทรดด้วย Limit Order จากการรู้จักแนวรับและแนวต้านเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่นักเทรดหลายๆ คนใช้ ที่มาของความนิยมนั้นก็คือความสามารถในการระบุราคาซื้อหรือขายที่ต้องการให้เกิดการเทรดล่วงหน้า โดยการใช้ Limit Order นี้ นักเทรดสามารถระบุราคาที่ต้องการซื้อหรือขายได้เลย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นราคาที่ตรงกับแนวรับหรือแนวต้านที่นักเทรดคาดว่าราคาจะกลับตัว เช่น เมื่อนักเทรดคาดว่าราคาจะแตะแนวต้านแล้วกลับตัวลง นักเทรดก็สามารถตั้ง Sell Limit Order ได้ที่ราคานั้นๆ
แต่ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ Limit Order ยังช่วยให้นักเทรดสามารถวางแผนการเทรดของตนเองได้ล่วงหน้าและช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดจากการตัดสินใจในขณะที่ราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่ ทั้งนี้ เรื่องที่สำคัญที่สุดในการใช้ Limit Order คือการใส่ Stop loss เพื่อจำกัดการสูญเสียหากราคาไม่เคลื่อนไหวตามทิศทางที่คาดหวัง และ
นอกจากนั้นการตั้งค่า Target Profit ก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา เพื่อให้การเทรดของคุณมีความปลอดภัยและมีแผนการที่ชัดเจน ในส่วนของตลาดที่มีเทรนด์ การใช้ Limit Order โดยการต่อต้านเทรนด์อาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ดังนั้นการวิเคราะห์ทิศทางของตลาดก่อนการวาง Order เป็นสิ่งที่สำคัญ
และสุดท้าย การมีการวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานอย่างถ่องแท้ รวมถึงการปฏิบัติตามแผนการเทรดของตนเอง เป็นคีย์ในความสำเร็จของการเทรดด้วย Limit Order
ความแตกต่างระหว่าง stop order และ limit order คืออะไร?
1. Stop Order
- ความหมาย: Stop Order คือคำสั่งที่ถูกสั่งไว้แต่จะไม่สั่งซื้อหรือขายจริง จนกว่าราคาตลาดจะถึงราคาที่กำหนด (หรือเรียกว่า “Stop Price”) เมื่อราคาตลาดถึง “Stop Price” คำสั่งนี้จะกลายเป็น Market Order ทันที
- เป้าหมาย: ปกติใช้เพื่อป้องกันความเสียหายในราคาที่ตั้งไว้หรือใช้ในการรับประโยชน์เมื่อราคาเคลื่อนที่ตามทิศทางที่ต้องการ
2. Limit Order
- ความหมาย: Limit Order คือคำสั่งที่สั่งซื้อหรือขายสินทรัพย์เมื่อราคาถึงระดับที่กำหนด แต่จะไม่เกินราคาที่กำหนด สำหรับการซื้อ ราคาจะต้องถึงหรือต่ำกว่าราคาที่กำหนด สำหรับการขาย ราคาจะต้องถึงหรือสูงกว่าราคาที่กำหนด
- เป้าหมาย: มักใช้เพื่อเปิดหรือปิดสถานะที่ราคาที่ต้องการหรือที่คาดว่าจะเป็นไปได้สุด
ความแตกต่างหลัก
- การทำงาน: Limit Order จะสั่งซื้อหรือขายเมื่อราคาตลาดถึงราคาที่กำหนด และไม่เกินราคานั้น ในขณะที่ Stop Order จะกลายเป็น Market Order เมื่อราคาตลาดถึงราคาที่กำหนด
- วัตถุประสงค์: Limit Order มักเน้นไปที่การซื้อหรือขายในราคาที่ต้องการ ขณะที่ Stop Order มักเน้นไปที่การป้องกันความเสียหายหรือเพื่อรับประโยชน์จากการเคลื่อนที่ของราคาที่ต้องการ