Liquidity ใน Forex คืออะไร?
Highlight
- Liquidity ในตลาด Forex คือความสะดวกในการซื้อขายสกุลเงินยิ่ง Liquidity เยอะก็จะสามารถวิเคราะห์ตลาดได้ง่ายมากขึ้น
- สำหรับมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้น อยากให้ลองเริ่มจาก Major Pairs เพราะมี Liquidity กราฟมักวิ่งเป็น Trend ทำให้วิเคราะห์ง่ายและแม่นยำกว่า
- ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อ Liquidity เช่น ข่าวสำคัญทางเศรษฐกิจต่างๆ และเหตุการณ์สำคัญต่างๆในโลก
Liquidity คืออะไร
Liquidity หรือที่แปลตรงๆ ว่า “สภาพคล่อง” คือความสะดวกในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ ถ้าเป็นในตลาด Forex ก็คือ ความง่ายในการซื้อขายสกุลเงิน สรุปง่ายๆก็คือถ้าตลาดมีคนซื้อ-คนขายเยอะ คู่เงินนั้นก็จะเทรดง่ายขึ้นนั่นเอง ใครเทรดสาย Scalping บอกได้เลยว่า “Liquidity คือพระเจ้า”!
- ยกตัวอย่างสำหรับคนที่ยังไม่เห็นภาพ
- ตลาดเงียบ: จะขายของแต่ไม่มีใครซื้อ ต้องลดราคาแรงๆ เพื่อให้ขายออก “Liquidity ต่ำ”
- ตลาดคึกคัก: ขายอะไรก็มีคนรอซื้อ จับคู่เทรดได้ง่าย “Liquidity สูง”
ทำไม Liquidity ถึงสำคัญ?
- เข้าออกออเดอร์ได้ไว: ออกออเดอร์ Buy/Sell ได้เลยไม่ต้องรอนาน
- สเปรดต่ำ: ค่า Spread เบาเหมือนขนนก เพราะคนเทรดเยอะ แข่งกันเยอะ
- ไม่โดน Slippage บ่อย: โอกาสที่ราคาจะกระโดดหลุดจุดที่เราต้องการก็น้อยลง
- วิเคราะห์เทคนิคแม่นขึ้น: ตลาดไม่แกว่งมั่วซั่ว เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์ได้ง่าย
ตัวอย่างคู่เงินที่มีสภาพคล่องสูง
Major Pairs (คู่เงินหลัก) นิยมที่สุด
Major Pairs หรือคู่เงินหลักที่ประกอบไปด้วย USD
คู่เงินที่ประกอบด้วย USD ยกตัวอย่างเช่น EUR, JPY, GBP, CHF, AUD, CAD, NZD ซึ่งเป็นสกุลเงินของประเทศเศรษฐกิจใหญ่ๆ
Cross Pairs (คู่เงินไขว้) ไม่มี USD แต่ยังคึก
Cross Pairs คือคู่เงินที่ไม่มี USD อยู่
Cross Pairs คือคู่เงินที่ไม่มี USD อยู่ในคู่เงิน ทำให้ราคามีความผันผวนสูงกว่า Major Pairs บางช่วงถ้าชอบกราฟที่วิ่งโหดๆ Cross Pairs คือคำตอบ!
- จุดเด่น
- ความผันผวนสูงกว่า Major: ตลาดวิ่งเร็วขึ้นการเคลื่อนไหวแรงขึ้นเมื่อเทียบกับ Major Pairs ที่มักจะนิ่งกว่า
- กำไรเร็ว: เพราะความผันผวนที่สูงนั้นแหละที่ทำให้การเทรดใน Cross Pairs สามารถทำกำไรได้รวดเร็ว “ถ้าจับจังหวะได้ถูกต้อง”!
- ข้อควรระวัง
- Spread สูงกว่า Major: เพราะ Liquidity ของ Cross Pairs ไม่สูงเท่า Major ทำให้ Spread สูงมากกว่า
- ต้องดูเวลาเทรดดีๆ: การเทรด Cross Pairs ต้องเลือกเวลาให้ดีเพราะค่อนข้างมีความเสี่ยง
ทริคสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ในการเลือกคู่เงิน
สำหรับมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้น ให้ลองเริ่มจาก Major Pairs เช่น EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD เป็นอันดับแรก เพราะอะไร?
- เหตุผลที่มือใหม่ควรเริ่มที่ Major Pairs
- มีข้อมูลเยอะ: ข่าวสาร, การวิเคราะห์ตลาด, และบทวิเคราะห์จากทั่วโลกมากมาย
- กราฟวิ่งแบบมีทิศทาง: Major Pairs มักจะเคลื่อนไหวอย่างเป็น Trend ทำให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์กราฟได้ง่ายขึ้น
- โอกาสเข้าออเดอร์ง่าย: สภาพคล่องดี พอเปิดคำสั่งแล้วเทรดได้ทันที ไม่มีดีเลย์
- เทรดเดอร์มือใหม่ควรเริ่มจากพื้นฐาน ก่อนจะไปลุยกับคู่เงินที่มีความผันผวนสูงกว่า
ปัจจัยที่กระทบ Liquidity มีอะไรบ้าง?
เวลาในการเทรด (Trading Session)
ตลาดจะเปิดเป็นเวลาเช่น New York 19.00 – 4.00 , Tokyo 7.00 – 16.00 , London 14.00 – 23.00 , Sydney 4.00 – 13.00
ถึงตลาด Forex จะเปิด 24 ชั่วโมง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคึกคักทุกเวลา ตลาดแบ่งออกเป็น 4 Session หลักๆ ได้แก่
- Sydney: ตลาดยังค่อนข้างนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหวมากเท่าไร
- Tokyo: Liquidity เริ่มเพิ่ม AUD, JPY จะวิ่ง
- London: “ช่วงทองในการเทรด Forex” เมื่อ London Session เปิดพร้อมกับ New York Session Liquidity พุ่งสูงสุด
- New York: ข่าวสำคัญมาเต็ม พร้อมกับการเปิดของ Wall Street
- Peak Time คือ 19:00 น. – 22:00 น. เพราะเป็นช่วงที่ London กับ New York เปิดพร้อมกัน Liquidity เยอะสุด
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญ
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญต่างๆ เช่น NFP CPI สามารถติดตามได้ผ่าน Forex Factory
ไม่มีอะไรที่จะส่งผลต่อสภาพคล่องได้มากกว่าข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะข่าวที่มีการประกาศจากธนาคารกลางหรือรัฐบาลของประเทศใหญ่ๆ ในโลกทำให้มีผลต่อ Liquidity เทรดเดอร์สามารถเช็คข่าวสารผ่าน Forex Factory ได้ข่าวที่สำคัญๆ เช่น
- NFP (Non-Farm Payroll): ตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐ
- FOMC Meeting & Fed Rate Decision: การปรับดอกเบี้ยจาก Federal Reserve
- CPI (Consumer Price Index): วัดค่าครองชีพ ปรับทิศทางเงินเฟ้อ
- GDP, Retail Sales, PMI: ข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญในการวัดการเติบโต
ปริมาณการเทรด (Volume)
ปริมาณ Volume ของแต่ละวันไม่เท่ากันและช่วงเวลาของตลาดก็มีผลต่อ Volume เช่นตลาด New York จะมี Liquidity เยอะที่สุด
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อ Liquidity ของตลาด Forex เพราะ Volume คือการแสดงถึงจำนวนการซื้อขายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นๆ ดังนั้นเมื่อมี Volume สูงก็หมายถึงมีคนเทรดมาก ตลาดก็จะมีความคล่องตัวสูง
ปริมาณการเทรดตามวันในสัปดาห์
- วันธรรมดา: เมื่อไม่มีวันหยุดสุดสัปดาห์หรือข่าวสำคัญมาแทรก การเคลื่อนไหวของตลาดจะเป็นไปตามปกติ มีเทรดเดอร์เข้ามาเทรดตลอดเวลา
- ข้อดี: สามารถเข้าออกออเดอร์ได้ทันที และไม่ต้องกังวลเรื่องสเปรดที่ขยายกว้าง
- กราฟจะชัดเจน: วิเคราะห์ทิศทางตลาดได้ง่ายขึ้น เนื่องจากไม่มีการสะดุดหรือความผันผวนที่สูงเกินไป
- วันหยุด, วันศุกร์เย็น: ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือช่วงใกล้วันศุกร์เย็น ปริมาณการเทรดจะลดลง
- ข้อเสีย: Liquidity ต่ำ ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาติดขัด และ Spread อาจขยาย
- ความเสี่ยง: เมื่อมี Volume น้อย คู่เงินบางคู่ก็อาจไม่เคลื่อนไหวตามที่วิเคราะห์
- วันก่อนข่าวใหญ่: ก่อนวันที่จะมีการประกาศข่าวสำคัญ เช่น NFP, ดอกเบี้ย หรือ GDP เทรดเดอร์บางกลุ่มอาจจะรอดูท่าทีของข่าวใหญ่ Liquidity อาจจะลดลงชั่วคราว
- ข้อควรระวัง: ตลาดอาจจะอยู่ในโหมดนิ่งๆ หรือไม่ค่อยขยับจนกว่าจะมีการประกาศข่าว
- สเปรดอาจขยาย: ในช่วงนี้สเปรดอาจจะสูงขึ้นเล็กน้อย หากไม่ได้เตรียมตัวให้ดีอาจมีการหลุดจุดที่ตั้งไว้ได้
เหตุการณ์ระดับโลก
เหตุการณ์ระดับโลกต่างๆก็ส่งผลกระทบต่อ Volume เหมือนกันเช่น วิกฤต Subprime ในปี 2008
บางครั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกอาจจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาด Forex และ Liquidity ด้วยเหตุที่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองจะทำให้เทรดเดอร์ระมัดระวังมากขึ้น
- สงคราม: Liquidity ลดลงมีความไม่แน่นอนที่ทำให้ตลาดผันผวน
- โรคระบาดต่างๆ: ตลาดแปรปรวน Safe Haven พุ่งสูง
- วิกฤตทางการเงิน: Liquidity หดตัวเร็วในช่วงวิกฤต เช่น สถานการณ์ Subprime ในปี 2008 วิกฤตการเงินที่เกิดจากการปล่อยกู้บ้านให้กับคนที่มีความเสี่ยงสูง ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์พัง ลุกลามสู่การล้มของสถาบันการเงิน
คู่เงินที่ Liquidity สูงขึ้นในช่วงวิกฤต
- เมื่อเกิดวิกฤต เทรดเดอร์มองหาสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น USD, JPY, CHF
- ทองคำ และ Bitcoin ก็เป็นที่นิยมเช่นกันในช่วงสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน
บทสรุปสำหรับ Liquidity ใน Forex
Liquidity คือความสะดวกในการซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex ยิ่งมี Liquidity เยอะ การเข้าออกออเดอร์ก็ยิ่งง่ายและรวดเร็ว สำหรับมือใหม่ควรเริ่มจาก Major Pairs ที่มี Liquidity สูงกราฟมักจะวิ่งเป็น Trend ช่วยให้วิเคราะห์ได้ง่ายขึ้น การเลือกคู่เงินที่มี Liquidity ดี ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ดี! แต่ก็อย่าลืม Money Management กันด้วยนะครับ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- Cross Currency Pair Comparison การเทียบค่าเงินข้ามคู่: https://forexthai.in.th/cross-currency-pair/
- Volume Forex คืออะไร มีประโยชน์ยังไงบ้างในการวิเคราะห์กราฟ: https://thaibrokerforex.com/volume-forex/
- สรุปข้อมูล คู่เงินหลัก (Major currency pair) ในตลาด Forex: https://thaibrokerforex.com/major-currency-pairs/