ตลาด OTC หรือชื่อเต็มคือ Over-The-Counter (OTC) คือ การซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านเครือข่ายโบรกเกอร์-ดีลเลอร์ แทนที่จะซื้อขายผ่านตลาดแลกเปลี่ยนกลาง เช่น ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) โดยที่การซื้อขายในตลาด OTC อาจเกี่ยวข้องกับหุ้น พันธบัตร และอนุพันธ์ ซึ่งเป็นสัญญาทางการเงินที่อ้างอิงมูลค่าจากสินทรัพย์พื้นฐาน เช่น สินค้าโภคภัณฑ์
เมื่อบริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลัก เช่น NYSE ได้ หลักทรัพย์ของบริษัทเหล่านี้ ก็จะนำมาซื้อขายในตลาด OTC และก็ยังคงอยู่ภายใต้กฎระเบียบของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ด้วย
หัวใจหลักของการซื้อขาย ในตลาด Over-The-Counter (OTC)
- หลักทรัพย์ในตลาด OTC สามารถซื้อขายได้ โดยไม่ต้องจดทะเบียนในตลาดแลกเปลี่ยน
- การซื้อหลักทรัพย์ในตลาด OTC จะเป็นการซื้อขายผ่านดีลเลอร์หรือโบรกเกอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดนี้
- ข้อดีของการซื้อขายในตลาด OTC คือ ทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าสู่ตลาดได้
มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับตลาด OTC กันก่อน
หุ้นที่ซื้อขายในตลาด OTC มักเป็นบริษัทขนาดเล็กที่ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดในการจดทะเบียนในตลาดหลักได้ โดยหุ้นที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ จะเรียกว่า “หุ้นจดทะเบียน” แต่หุ้นที่ทำการซื้อขายในตลาด OTC จะเรียกว่า “หุ้นที่ไม่จดทะเบียน” การทำธุรกรรมซื้อขายจะเกิดขึ้นผ่านระบบของ OTC Markets Group ที่แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ OTCQX, OTCQB และตลาด Pink Open Market
ประเภทของหลักทรัพย์ OTC หุ้น, พันธบัตร, อนุพันธ์, ใบแสดงสิทธิในหุ้นของบริษัทต่างประเทศ (ADR), สกุลเงินต่างประเทศ และ และสกุลเงินดิจิทัล
ประเภทของหลักทรัพย์ OTC
- หุ้น มักเป็นบริษัทขนาดเล็กที่ไม่สามารถจดทะเบียนในตลาดใหญ่ เช่น NYSE หรือตลาด Nasdaq ได้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง
- พันธบัตร ไม่ได้มีการซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการ แต่มักถูกซื้อขายผ่านเครือข่ายโบรกเกอร์-ดีลเลอร์
- อนุพันธ์ เป็นสัญญาทางการเงินที่จัดทำขึ้นโดยโบรกเกอร์ ซึ่งมูลค่าขึ้นอยู่กับสินทรัพย์พื้นฐาน เช่น หุ้น
- ใบแสดงสิทธิในหุ้นของบริษัทต่างประเทศ (ADR) ใบแสดงสิทธิในหุ้น ที่แสดงจำนวนหุ้นของบริษัทต่างประเทศ
- สกุลเงินต่างประเทศ การซื้อขายผ่านตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) ก็เป็นตลาด OTC
- สกุลเงินดิจิทัล เหรียญดิจิทัลอย่าง Bitcoin และ Ethereum ก็ทำการซื้อขายกันในตลาด OTC
ทำความรู้จักกับบริษัท OTC Markets Group.
OTC Markets Group. เป็นบริษัทที่ให้บริการทางการเงินในอเมริกา โดยที่มีการดำเนินงาน ในตลาด OTCQX Best Market, OTCQB Venture Market และ Pink Open Market ถึงแม้ว่าเครือข่าย OTC จะไม่ใช่ตลาดแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการเช่น NYSE แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีข้อกำหนดในการเข้าจดทะเบียนที่กำหนดโดย SEC
ในตลาด OTC แบ่งออกเป็น 3 ระดับหลัก คือ Best Market (OTCQX), Venture Market (OTCQB) และ Pink Sheets
เจาะลึกการลงทุนในตลาด OTC เพิ่มเติม
ในตลาด OTC มีหลักทรัพย์มากกว่า 12,000 รายการ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับหลัก ได้แก่
1. Best Market (OTCQX)
เป็นระดับที่ได้รับการคัดเลือกมากที่สุดใน 3 ระดับ โดยมีเพียง 4% ของหุ้นทั้งหมดในตลาด OTC ที่ซื้อขายใน OTCQX ซึ่งมีมาตรฐานการรายงานสูงและการกำกับดูแลที่เข้มงวด โดยทั่วไปมักประกอบด้วยบริษัทต่างชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักในต่างประเทศ และบางบริษัทในสหรัฐที่วางแผนจะจดทะเบียนใน NYSE หรือ Nasdaq ในอนาคต
2. Venture Market (OTCQB)
ระดับกลาง มีบริษัทที่กำลังพัฒนาเป็นจำนวนมาก บริษัทใน OTCQB ต้องรายงานการเงินและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลบางส่วน
3. Pink Sheets
บริษัทที่ซื้อขายใน Pink Sheets จะไม่มีข้อกำหนดการรายงาน และไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ถึงแม้ว่าจะมีบริษัทเป็นหลักเป็นแหล่งและดำเนินธุรกิจจริงอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วที่ Pink Sheets มักจะเป็นบริษัทที่ไม่มีการดำเนินธุรกิจจริงมากกว่า
และนอกจากทั้ง 3 ตลาดที่เรากล่าวถึงแล้ว จริง ๆ ก็ยังมีตลาด Gray Market ด้วย แต่ Gray Market จะไม่ใช่ตลาด OTC อย่างเป็นทางการ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นตลาดที่ไม่ได้รับการรับรอง สำหรับหลักทรัพย์ที่ไม่จดทะเบียน
ทำความรู้จักกับข้อดีและข้อเสียของตลาด OTC ก่อนตัดสินใจลงทุน
ข้อดีและข้อเสียของตลาด OTC
ข้อดี
ตลาด OTC เปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงหลักทรัพย์ที่ไม่สามารถซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนหลัก เช่น พันธบัตร, ADR, และอนุพันธ์ และด้วยความที่มีข้อกำหนดที่น้อยกว่า ทำให้บริษัทขนาดเล็กสามารถเข้าร่วมได้ และจากการลงทุนในหุ้นราคาต่ำ ก็ทำให้นักลงทุนเก็งกำไรมีโอกาสทำกำไรสูง
ข้อเสีย
สภาพคล่องของหุ้น ในตลาด OTC ค่อนข้างต่ำ ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการซื้อขาย และจากขาดการกำกับดูแลทำให้ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะมีน้อย และเสี่ยงต่อการฉ้อโกง นอกจากนี้หุ้น OTC ยังมีความผันผวนสูงจากข่าวสารทางเศรษฐกิจ
การลงทุนในตลาด OTC ปลอดภัยหรือไม่?
เมื่อมองจากภาพรวมแล้ว การลงทุนในตลาด OTC โดยทั่วไปถือว่ามีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีข้อกำหนดการรายงานที่ไม่เข้มงวดเท่าหุ้นที่จดทะเบียน หลายบริษัทที่ลงสนามทำการซื้อขายในตลาดนี้อาจมีราคาหุ้นต่ำ และมีความผันผวนสูง
เทรดเดอร์สามารถทำการซื้อขายในตลาด OTC ผ่านโบรกเกอร์ที่เปิดให้บริการทางออนไลน์ได้
วิธีการซื้อหลักทรัพย์ในตลาด OTC
การซื้อหลักทรัพย์ในตลาด OTC สามารถทำได้ ด้วยการระบุหลักทรัพย์ที่คุณต้องการลงทุน และกำหนดจำนวนเงินที่ต้องการลงทุน นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้น OTC ผ่านโบรกเกอร์ที่เปิดให้บริการทางออนไลน์ได้
อนุพันธ์ในตลาด OTC
อนุพันธ์ในตลาด OTC เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มูลค่าขึ้นอยู่กับสินทรัพย์พื้นฐาน เช่น หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ หรือพันธบัตร โดยผู้ที่ถือครองอนุพันธ์ไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์พื้นฐานเหล่านั้น แต่การที่จะทำกำไรหรือขาดทุน ก็ขึ้นอยู่กับความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์เหล่านั้นในอนาคต ตัวอย่างของอนุพันธ์ เช่น ฟิวเจอร์ส, ออปชัน, และ ฟอร์เวิร์ด ซึ่งเทรดเดอร์สามารถจัดการการลงทุน หรือหวังเก็งกำไรได้ตามแนวโน้มของตลาดที่เกิดขึ้น
แต่ก็มีบางเคส ที่ผู้ที่ถือครองอนุพันธ์สามารถเลือกส่งมอบ หรือรับมอบสินค้าจริงเมื่อสัญญาหมดอายุได้ เช่น ฟิวเจอร์สสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ถึงกระนั้นก็มีอยู่บ่อยครั้งที่นักลงทุนในตลาด OTC มักจะปิดสถานะการลงทุนก่อนถึงวันครบกำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงการส่งมอบสินค้าจริง
สรุป
ด้วยความที่การลงทุนในตลาด Over-The-Counter (OTC) มีความเสี่ยงสูงนี้เอง จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความเข้าใจในธรรมชาติของตลาดนี้ รวมถึงต้องมีการใช้กลยุทธ์การลงทุนที่เซฟเป็นพิเศษ และต้องวางแผนในการจัดการความเสี่ยงให้ดี นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตลาดนี้ควรศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนที่จะทำการซื้อขายเพื่อการลงทุนที่เห็นผลกำไรตามที่คาดหวัง
SOURCE :