ในตลาด Forex ความเร็วในการตัดสินใจและความแม่นยำในการเข้าจุดซื้อขายถือเป็นปัจจัยสำคัญในการทำกำไร แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่เทรดเดอร์ต้องการเข้าตลาดทันที บางสถานการณ์อาจต้องรอราคามาถึงจุดที่ต้องการก่อนค่อยเปิดออร์เดอร์ ซึ่งคำสั่งประเภท Pending Order จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ
Pending Order คืออะไร
Pending Order คือ คำสั่งซื้อขายล่วงหน้าในตลาด Forex ที่ตั้งไว้ล่วงหน้าโดยยังไม่ทำการซื้อขายทันที แต่จะเปิดออร์เดอร์อัตโนมัติเมื่อราคาตลาดวิ่งมาถึงระดับราคาที่กำหนดไว้
คำสั่งประเภทนี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการรอให้ตลาดเคลื่อนไหวมาถึงจุดที่ตนวิเคราะห์ไว้ก่อน เช่น รอให้ทะลุแนวต้าน หรือลงมาชนแนวรับ แล้วจึงเปิดออร์เดอร์โดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ
ประเภทของ Pending Order
ใน MetaTrader 4 (MT4) คำสั่ง Pending Order จะมีแค่ 4 ประเภทคำสั่ง ขณะที่ MetraTrader 5 (MT5) จะมีแค่ 6 ประเภทคำสั่ง ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภทพื้นฐาน และ 2 ประเภทเพิ่มเติมที่เรียกว่า Stop Limit Orders ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์ควบคุมจุดเข้าเทรดได้แม่นยำยิ่งขึ้น
1. Buy Limit
คำสั่งซื้อที่ตั้งไว้ “ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน”
ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะปรับตัวลงมาที่จุดรับ แล้วดีดกลับขึ้นไป
เหมาะกับกลยุทธ์ “Buy on dip”
ตัวอย่าง: ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.1000
ตั้ง Buy Limit ที่ 1.0950 เมื่อราคาลงมาถึง 1.0950 จะเปิด Buy อัตโนมัติ
2. Sell Limit
คำสั่งขายที่ตั้งไว้ “สูงกว่าราคาปัจจุบัน”
ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะขึ้นไปชนแนวต้าน แล้วกลับตัวลง
เหมาะกับกลยุทธ์ “Sell on rally”
ตัวอย่าง: ราคาปัจจุบัน 1.1000
ตั้ง Sell Limit ที่ 1.1050 เมื่อราคาขึ้นไปถึง จะเปิด Sell อัตโนมัติ
3. Buy Stop
คำสั่งซื้อที่ตั้งไว้ “สูงกว่าราคาปัจจุบัน”
ใช้เมื่อคาดว่าหากราคาทะลุแนวต้าน จะพุ่งขึ้นต่อ
เหมาะกับกลยุทธ์ Breakout
ตัวอย่าง: ราคาปัจจุบัน 1.1000
ตั้ง Buy Stop ที่ 1.1050 เมื่อราคาทะลุขึ้นไป จะเปิด Buy อัตโนมัติ
4. Sell Stop
คำสั่งขายที่ตั้งไว้ “ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน”
ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะทะลุแนวรับลงไปต่อ
เหมาะกับกลยุทธ์ Breakout ฝั่งขาลง
ตัวอย่าง: ราคาปัจจุบัน 1.1000
ตั้ง Sell Stop ที่ 1.0950 เมื่อราคาลงไปถึง จะเปิด Sell อัตโนมัติ
คำสั่งขั้นสูงใน MT5: Stop Limit Orders
5. Buy Stop Limit
คือการผสมกันระหว่าง Buy Stop และ Buy Limit
ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะทะลุขึ้นไป แล้วจะมีการย่อลงก่อนขึ้นต่อ
เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการความแม่นยำในการเข้าจุดหลังเบรกแนวต้าน
มี 2 ระดับราคา:
-
ระดับที่ 1: Buy Stop Trigger (เช่น 1.1050) – ราคาแตะจุดนี้ก่อน
-
ระดับที่ 2: Buy Limit (เช่น 1.1030) – ราคาย่อลง แล้วระบบเปิด Buy
6. Sell Stop Limit
คือการผสมระหว่าง Sell Stop และ Sell Limit
ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะทะลุลง แล้วรีบาวด์กลับขึ้นเล็กน้อย ก่อนลงต่อ
เหมาะกับกลยุทธ์ที่รอราคาดึงกลับก่อนเข้า Sell
มี 2 ระดับราคา:
-
ระดับที่ 1: Sell Stop Trigger (เช่น 1.0950) – ราคาลงมาถึงจุดนี้ก่อน
-
ระดับที่ 2: Sell Limit (เช่น 1.0970) – ราคาดีดกลับ แล้วเปิด Sell
ใน MT5 เมื่อคุณตั้ง Pending Order จะมีตัวเลือก Expiration
- GTC (Good ‘Til Cancelled) : คำสั่ง Pending Order จะยังคงอยู่ในระบบไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง
- Today : คำสั่ง Pending Order จะมีอายุเพียง ถึงสิ้นวันนั้น (ตามเวลาเซิร์ฟเวอร์โบรกเกอร์) ถ้าราคายังไม่ถึงระดับที่กำหนด คำสั่งจะถูกลบโดยอัตโนมัติเมื่อจบวัน
- Specified : สามารถกำหนด “วันและเวลา” หมดอายุของคำสั่ง Pending ได้เองตามต้องการ หากถึงเวลาที่กำหนดแล้วยังไม่ถูกเปิด คำสั่งจะหมดอายุโดยอัตโนมัติ
- Specified Day : คล้ายกับ “Specified” แต่จะให้คุณเลือกเฉพาะ “วันหมดอายุ” โดยไม่มีการกำหนดเวลาแบบระบุชั่วโมงนาที คำสั่งจะหมดอายุเมื่อสิ้นสุดวันนั้น (ตามเวลาเซิร์ฟเวอร์)
ข้อดีของ Pending Order
-
วางแผนการเข้าเทรดล่วงหน้าได้ โดยไม่ต้องอยู่หน้าจอ
-
ช่วยให้เข้าราคาที่แม่นยำขึ้น ตามการวิเคราะห์ทางเทคนิค
-
ลดอารมณ์ในการตัดสินใจ โดยเฉพาะเมื่อเทรดด้วยระบบ
-
เหมาะกับกลยุทธ์ Breakout และ Reversal
ข้อควรระวังในการใช้ Pending Order
-
ต้องตั้ง Stop Loss และ Take Profit คู่กันเสมอ เพื่อควบคุมความเสี่ยง
-
หากข่าวแรงหรือมีความผันผวนสูง อาจเกิด Slippage หรือเปิดราคาที่ไม่ตรงกับจุดที่ตั้งไว้
-
ควรตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ของคุณรองรับการใช้ Pending Order แบบไม่มีข้อจำกัด
ตัวอย่างการใช้ Pending Order ในกลยุทธ์เทรด
กลยุทธ์ Breakout:
เทรดเดอร์คาดว่าหากราคาทะลุแนวต้าน จะเกิดการเคลื่อนไหวแรงขึ้น
วิธีใช้: ตั้ง Buy Stop ไว้เหนือแนวต้านเล็กน้อย เพื่อให้ระบบเปิดออร์เดอร์อัตโนมัติเมื่อทะลุจริง
กลยุทธ์ Buy the Dip / Sell the Rally:
รอให้ราคาย่อเข้ามาใกล้แนวรับหรือแนวต้าน
วิธีใช้: ตั้ง Buy Limit ใกล้แนวรับ หรือ Sell Limit ใกล้แนวต้าน แล้วรอให้ราคาวิ่งเข้ามาหา
สรุป
Pending Order คือคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวางแผนการเข้าออร์เดอร์อย่างแม่นยำ ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ และควบคุมอารมณ์ในการตัดสินใจได้ดีขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้กลยุทธ์ตามแนวรับ-แนวต้าน การเบรก หรือการเทรดตามระบบ
การใช้ Pending Order อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มความแม่นยำ ลดต้นทุน และทำให้การเทรดเป็นระบบมากขึ้น ทั้งนี้ควรใช้ร่วมกับการวาง Stop Loss และการบริหารความเสี่ยงที่ดี เพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในระยะยาว
หากคุณเริ่มต้นศึกษาเรื่องการวางแผนเข้าเทรด หรือพัฒนาเป็นเทรดเดอร์แบบระบบ Pending Order คืออีกหนึ่งเครื่องมือพื้นฐานที่คุณไม่ควรมองข้าม