ในการเทรด Forex เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ การวิเคราะห์กราฟ และการบริหารความเสี่ยง แต่มีอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันและสามารถช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้กับนักเทรดได้โดยไม่ต้องเสี่ยงเพิ่ม นั่นคือ “Rebate”

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า Rebate ผ่านตามาในที่ต่างๆ เกี่ยวกับ Forex หรือจาก Introducing Broker (IB) แต่ยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร ทำงานอย่างไร และจะได้รับ Rebate ได้อย่างไร บทความนี้จะอธิบายทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ Rebate อย่างละเอียด

Rebate คืออะไร

Rebate หรือในภาษาไทยเรียกว่า “เงินคืนค่าธรรมเนียมการเทรด” คือเงินที่โบรกเกอร์หรือผู้แนะนำ (IB) คืนให้กับลูกค้าจากค่าธรรมเนียมหรือสเปรดที่เทรดเดอร์จ่ายไปในการเปิดออร์เดอร์ในแต่ละครั้ง

พูดง่าย ๆ ก็คือ ทุกครั้งที่คุณเปิดหรือปิดออร์เดอร์ โบรกเกอร์จะได้รับรายได้จากค่าธรรมเนียม เช่น ค่าสเปรดหรือค่าคอมมิชชั่น แล้วนำบางส่วนมาคืนให้คุณในรูปแบบของ Rebate

ตัวอย่างการทำงานของระบบ Rebate

สมมติว่าคุณเปิดออร์เดอร์กับโบรกเกอร์ที่มีค่าคอมมิชชั่น 7 ดอลลาร์ต่อการเทรด 1 ล็อต และคุณใช้บัญชีที่ได้รับ Rebate คืน 2 ดอลลาร์ต่อ 1 ล็อต เท่ากับว่าคุณจะได้รับเงินคืน 2 ดอลลาร์ทุกครั้งที่คุณเทรดครบ 1 ล็อต ไม่ว่าคุณจะได้กำไรหรือขาดทุนจากออร์เดอร์นั้น

เงินคืนตรงนี้อาจดูไม่มาก แต่เมื่อคุณเทรดในปริมาณสูงหรือใช้กลยุทธ์ที่เน้นจำนวนครั้งในการเปิดปิดออร์เดอร์ เช่น Scalping หรือ Grid Trading Rebate จะสะสมเป็นจำนวนที่มากขึ้นและช่วยลดต้นทุนการเทรดได้อย่างมีนัยสำคัญ

รูปแบบของ Rebate

  1. Rebate แบบรายวัน (Daily Rebate)
    เงินคืนจะถูกโอนเข้าบัญชีทุกวันตามจำนวนล็อตที่เทรดในวันนั้น

  2. Rebate แบบรายสัปดาห์ หรือรายเดือน
    โบรกเกอร์บางรายหรือ IB บางแห่งจะสรุปยอด Rebate ให้ทุกสัปดาห์หรือเดือน แล้วจ่ายทีเดียว

  3. Rebate แบบหักจากค่าคอมมิชชั่นทันที
    บางบัญชีอาจได้รับส่วนลดทันทีที่เปิดออร์เดอร์ เช่น จากค่าคอม 7 ดอลลาร์ เหลือ 5 ดอลลาร์ทันทีโดยไม่ต้องรอรับคืน

ข้อดีของ Rebate

  • ช่วยลดต้นทุนในการเทรด โดยเฉพาะสำหรับนักเทรดที่เปิดออร์เดอร์บ่อย
  • ได้รับเงินคืนแม้จะขาดทุนจากการเทรด
  • เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นรายย่อย รายใหญ่ หรือเทรดผ่าน EA
  • สามารถสะสมเป็นกำไรระยะยาว ถ้าเทรดอย่างมีวินัย

ข้อควรระวังเกี่ยวกับ Rebate

  • บางโปรแกรม Rebate อาจมาพร้อมกับเงื่อนไขแอบแฝง เช่น ต้องเทรดปริมาณขั้นต่ำจึงจะถอนเงินคืนได้

  • หากรับผ่าน IB ที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจไม่ได้รับเงินคืนตามที่ตกลงไว้

  • บางโบรกเกอร์อาจไม่อนุญาตให้รับ Rebate หากไม่ได้เปิดบัญชีผ่านลิงก์ IB เฉพาะ

จะได้รับ Rebate ได้อย่างไร

  1. เปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ที่มีระบบ Rebate
    โบรกเกอร์บางรายมีระบบคืนเงินในตัวโดยไม่ต้องผ่าน IB เช่น Exness, XM, IC Markets (ในบางประเภทบัญชี)

  2. เปิดบัญชีผ่าน IB ที่มีโปรแกรม Rebate
    นักเทรดจำนวนมากเลือกเปิดบัญชีผ่านลิงก์ของ IB หรือเว็บไซต์ Rebate Forex ซึ่งจะช่วยประสานงานกับโบรกเกอร์ในการจ่ายเงินคืนให้ลูกค้า

  3. สมัครรับ Rebate ผ่านเว็บไซต์กลาง
    มีเว็บไซต์ Rebate ที่รวมโบรกเกอร์หลายเจ้า เช่น

โบรกเกอร์ที่นิยมรับ Rebate

  • Exness – มีระบบคืนเงินในตัว สามารถดูยอดคืนได้แบบเรียลไทม์
  • XM – เสนอโบนัสเงินคืนเป็นประจำ พร้อมโปรโมชันพิเศษ
  • IC Markets – มี Rebate ผ่าน IB และเว็บไซต์ cashback ต่าง ๆ
  • Tickmill – ค่าคอมต่ำ และสามารถรับ Rebate ผ่านพาร์ตเนอร์ได้
  • FBS – มีโบนัสคืนเงินหลากหลายแบบ รวมถึงโปรแกรม Loyalty

สรุป

Rebate คืออีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรด Forex โดยเฉพาะในแง่ของการลดต้นทุน แม้จะไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อกลยุทธ์การเทรด แต่สามารถสะสมเป็นกำไรในระยะยาวได้อย่างดี หากเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของตนเอง

เทรดเดอร์ควรตรวจสอบเงื่อนไขการรับ Rebate จากโบรกเกอร์หรือ IB ให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและเพิ่มความมั่นใจว่าเงินคืนที่ควรได้รับจะถูกส่งถึงคุณจริง

หากคุณเป็นนักเทรดที่เปิดออร์เดอร์บ่อย การใช้ประโยชน์จากระบบ Rebate อาจช่วยให้คุณสร้างผลตอบแทนสุทธิได้มากกว่าที่คิดโดยไม่ต้องเสี่ยงเพิ่มแม้แต่น้อย