ค่า Swap คืออะไร?
ค่า Swap หรือที่เรียกว่า ค่าโรลโอเวอร์ (Rollover) คือ ค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นจากการถือคำสั่งซื้อขายข้ามคืนในตลาด Forex เป็นอัตราดอกเบี้ยที่โบรกเกอร์คิดจากเทรดเดอร์ในการถือครองสถานะซื้อ (Buy) หรือขาย (Sell) ข้ามวัน ค่า Swap สามารถเป็นได้ทั้ง บวก และ ลบ ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่เทรดเดอร์ทำการซื้อขาย
หลักการทำงานของค่า Swap
ค่า Swap เกิดจากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงินที่เทรดเดอร์ทำการซื้อขาย เช่น หากคุณซื้อคู่เงิน EUR/USD คุณกำลังซื้อ EUR และขาย USD ซึ่งหมายความว่าคุณได้รับอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่คุณซื้อ และต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่คุณขาย
ตัวอย่างเช่น
- หากอัตราดอกเบี้ยของ EUR สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของ USD เทรดเดอร์อาจได้รับค่า Swap บวกจากการถือคำสั่งซื้อ (Buy) ข้ามคืน
- ในทางกลับกัน หากอัตราดอกเบี้ยของ EUR ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของ USD เทรดเดอร์จะต้องจ่ายค่า Swap สำหรับการถือคำสั่งซื้อ (Buy) ข้ามคืน
สำหรับคำสั่งขาย (Sell) หลักการก็ตรงกันข้าม หากคุณขาย EUR/USD หมายความว่าคุณกำลังขาย EUR และซื้อ USD ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของ USD จะมีผลต่อค่า Swap ที่คุณต้องจ่ายหรือได้รับ
ประเภทของค่า Swap
-
Swap Long (ค่า Swap สำหรับคำสั่งซื้อ Buy)
- ใช้สำหรับกรณีที่เทรดเดอร์เปิดสถานะซื้อ (Buy) และถือครองข้ามคืน
- หากสกุลเงินที่ซื้อมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าสกุลเงินที่ขาย เทรดเดอร์อาจได้รับค่า Swap
- หากสกุลเงินที่ซื้อมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า เทรดเดอร์จะต้องจ่ายค่า Swap
-
Swap Short (ค่า Swap สำหรับคำสั่งขาย Sell)
- ใช้สำหรับกรณีที่เทรดเดอร์เปิดสถานะขาย (Sell) และถือครองข้ามคืน
- หากสกุลเงินที่ขายมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าสกุลเงินที่ซื้อ เทรดเดอร์อาจได้รับค่า Swap
- หากสกุลเงินที่ขายมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า เทรดเดอร์จะต้องจ่ายค่า Swap
ค่า Swap คำนวณอย่างไร?
ค่า Swap คำนวณโดยใช้สูตรดังนี้
Swap = (Lot Size × Pip Value × Interest Rate Difference × Number of Nights) / 10
โดยที่
- Lot Size คือ ขนาดของการซื้อขาย
- Pip Value คือ มูลค่าของ Pip ในคู่เงินที่ซื้อขาย
- Interest Rate Difference คือ ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงิน
- Number of Nights คือ จำนวนวันที่ถือครองสถานะ
วันพิเศษที่มีค่า Swap เพิ่มขึ้น
โดยทั่วไป ค่า Swap จะถูกคิดทุกคืนที่เทรดเดอร์ถือครองสถานะหลังช่วงเวลาตัดรอบของโบรกเกอร์ ซึ่งมักจะเป็นเวลา 00:00 น. ตามเวลาเซิร์ฟเวอร์ ของโบรกเกอร์ อย่างไรก็ตาม ในคืนวันพุธ ค่า Swap มักจะถูกคิดเป็น 3 เท่า ของค่าปกติ เนื่องจากวันพุธเป็นวันตัดรอบสำหรับธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ยในช่วงสุดสัปดาห์
ตัวอย่างค่า Swap ใน XM
ตัวอย่าง บัญชี Standard ของทาง XM ในคู่สกุลเงิน EURUSD
- มีการเก็บค่า Swap ฝั่ง Long อยู่ที่ -7.64
- และเก็บค่า Swap ฝั่ง Short อยู่ที่ +1.96
นั่นหมายความว่า หากเทรดเดอร์เปิดสถานะฝั่ง Long ของคู่เงิน EURUSD จะต้องเสียค่า Swap อยู่ที่ -7.64 points ต่อวัน แต่หากเปิดสถานะฝั่ง Short ของคู่สกุลเงิน EURUSD จะได้รับค่า Swap อยู่ที่ +1.96 points ต่อวัน
ทั้งนี้ XM มีบริการ ฟรี Swap ให้กับบัญชี Ultra Low โดยไม่มีการเก็บค่าสวอปสำหรับคู่เงินหลัก คู่เงินรอง ทอง และ เงิน (แต่จะมีสิทธิได้รับโบนัส)
เทรดเดอร์สามารถลองคำนวณค่า Swap ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.xm.com/th/forex-calculators/all-in-one
ข้อดีและข้อเสียของค่า Swap
ข้อดี
- สามารถใช้เป็นกลยุทธ์การเทรดแบบ Carry Trade ซึ่งเป็นการเลือกซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงและขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อรับผลตอบแทนจากค่า Swap
- สามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมหากเลือกซื้อขายคู่เงินที่ให้ค่า Swap บวก
ข้อเสีย
- ค่า Swap อาจเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับเทรดเดอร์ที่ถือคำสั่งซื้อขายข้ามคืน โดยเฉพาะเมื่อค่า Swap เป็นลบ
- ค่า Swap สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางและสภาพตลาด
สรุป
ค่า Swap เป็นค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นเมื่อถือคำสั่งซื้อขายข้ามคืนในตลาด Forex โดยขึ้นอยู่กับความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงินในคู่เงินที่ซื้อขาย ค่า Swap อาจเป็น บวก หรือ ลบ ขึ้นอยู่กับประเภทของคำสั่งซื้อขายและอัตราดอกเบี้ยของแต่ละสกุลเงิน เทรดเดอร์ควรศึกษาค่า Swap ของคู่เงินที่ต้องการเทรด และคำนึงถึงต้นทุนเพิ่มเติมนี้เมื่อต้องการถือสถานะข้ามคืน เพื่อให้สามารถวางแผนการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ