Uptick Rule หรือ กฎ Uptick คือกฎการซื้อ-ขายที่ถูกบังคับใช้ โดยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เพื่อจำกัดการขายชอร์ตของหุ้นที่ราคากำลังลดลง กฎนี้อนุญาตให้ขายชอร์ตหุ้นได้เฉพาะเมื่อมีการ “อัพติ๊ก” ซึ่งหมายความว่า ราคาหุ้นปัจจุบันจะต้องสูงกว่าราคาการซื้อขายครั้งก่อน การออกกฎนี้มีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดและปกป้องความเชื่อมั่นของนักลงทุน เป็นการควบคุมการลดลงของราคาหุ้น ที่เกิดจากการโจมตีในตลาดหมี นั่นเอง
ความเป็นมาของ Uptick Rule
กฎ Uptick หรือบางครั้งก็เรียกว่า กฎ Plus Tick ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี 1938 และก็ถูกยกเลิกไปในปี 2007 แต่ต่อมาทาง SEC ได้นำกฎนี้กลับมาใช้อีกครั้งในปี 2010 หลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2008 เพื่อป้องกันการแทรกแซงราคาหุ้นโดยผู้ค้าหุ้น เพราะกฎนี้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมาก ในการจำกัดการขายชอร์ตในตลาดหุ้น และป้องกันผลกระทบด้านลบที่จะเกิดขึ้นในตลาด
คุณลักษณะและหน้าที่ของกฎ Uptick
- กฎ Uptick ทำหน้าที่จำกัดการขายชอร์ตของหุ้นที่ราคาลดลง 10% หรือมากกว่าใน 1 วัน
- กฎระบุว่า หุ้นที่มีราคาลดลงจะต้องถูกซื้อขายในราคาที่สูงกว่าราคาการซื้อขายครั้งล่าสุด
- ในปี 2010 ทาง SEC ได้นำกฎ Rule 201 มาใช้เป็นกฎ Uptick ทางเลือก หลังจากยกเลิกกฎนี้ไปในปี 2007
- กฎนี้ป้องกันการลดลงของราคาหุ้นที่เกิดจากการตั้งใจขายชอร์ต
- กฎนี้มีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของตลาดและเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน
- ขนาดของ tick ขั้นต่ำสำหรับหุ้นที่ซื้อขายในราคาสูงกว่า 1 ดอลลาร์คือ 1 เซนต์
- กฎ Uptick มีการใช้ตั้งแต่ปี 1938 – 2007 ซึ่งกำหนดว่าการขายชอร์ตสามารถทำได้เฉพาะในช่วง uptick เท่านั้น
- ต่อมากฎทางเลือกในปี 2010 ได้อนุญาตให้ผู้ขายชอร์ตทำการซื้อขายเฉพาะในช่วง uptick หากราคาหลักทรัพย์ได้ลดลง 10% ในหนึ่งวัน
- ส่วน Downtick จะเกิดขึ้นเมื่อราคาของหลักทรัพย์ลดลงอย่างน้อย 1 เซนต์จากการซื้อขายก่อนหน้า
กฎ Uptick ทำหน้าที่จำกัดการขายชอร์ตของหุ้นที่ราคาลดลง 10% หรือมากกว่าใน 1 วัน
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎ Uptick
กฎ Uptick ตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ขายเร่งปั่นให้ราคาหลักทรัพย์ลดลงอย่างรุนแรง ด้วยการป้อนคำสั่งขายชอร์ตที่ราคาสูงกว่าราคาประมูลปัจจุบัน ทำให้ผู้ขายชอร์ตมั่นใจว่าคำสั่งจะถูกดำเนินการในช่วงราคาขาขึ้น (uptick)
กฎ Uptick รุ่นบุกเบิก ถูกนำมาใช้ภายใต้ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ Securities Exchange Act ในปี 1934 ในฐานะกฎ 10a-1 และถูกบังคับใช้ในปี 1938 แม้ SEC จะได้ยกเลิกกฎนี้ในปี 2007 แต่ก็ได้นำกฎทางเลือกกลับมาในปี 2010 กฎนี้กำหนดให้ศูนย์การซื้อขาย ต้องจัดตั้งและบังคับใช้ขั้นตอนที่ป้องกันการดำเนินการหรือแสดงคำสั่งขายชอร์ตที่มีคำสั่งห้าม
กฎ Uptick ทางเลือก คืออะไร?
กฎ Uptick ทางเลือก ถือกำเนิดขึ้นมาในปี 2010 กฎนี้อนุญาตให้นักลงทุนออกจากตำแหน่ง Long ก่อนที่การขายชอร์ตจะเกิดขึ้น กฎนี้จะถูกกระตุ้นเมื่อราคาหุ้นลดลงอย่างน้อย 10% ใน 1 วัน และเมื่อถึงจุดนั้น การขายชอร์ตจะได้รับอนุญาตให้ขายได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ราคาสูงกว่าราคาประมูลที่ดีที่สุดในปัจจุบัน กฎนี้ตั้งขึ้นมาด้วยจุดประสงค์เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเสถียรภาพของตลาดในช่วงเวลาที่เกิดความเครียดและความผันผวน
การทดสอบราคาที่ถูกจำกัดจะมีผลสำหรับวันซื้อขายที่เหลือและวันถัดไป กฎนี้มักจะใช้กับหุ้นทุกตัวที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติ ไม่ว่าจะซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์หรือนอกตลาดก็ตาม
การยกเว้นกฎ
ถึงแม้จะมีความเข้มงวดมากเพียงใด แต่ก็ยังมีข้อยกเว้น สำหรับการซื้อขายล่วงหน้า (futures) มีกฎยกเว้นบางข้อ จากกฎ Uptick เพราะเนื่องจากสินค้าเหล่านี้มีสภาพคล่องสูง และมีผู้ซื้อที่พร้อมจะเปิดตำแหน่ง Long อยู่เสมอ จึงมั่นใจได้ว่าราคาจะไม่ถูกผลักให้ต่ำจนเกินความเป็นจริง
และเพื่อให้มีสิทธิ์ได้รับการยกเว้น สัญญาล่วงหน้าจะต้องถือว่า “เป็นของผู้ขาย” โดยที่ SEC ระบุว่า “บุคคลนั้นจะต้องถือสัญญาฟิวเจอร์สที่จะซื้อและได้รับแจ้งว่าสถานะดังกล่าวจะถูกส่งมอบเป็นหลักทรัพย์ที่ไม่สามารถยกเลิกได้”
หุ้นจะสามารถเกิด uptick ได้ ถ้าหากมีนักลงทุนเข้ามาซื้อเพิ่ม
วิธีการทำงานของ Uptick
ในหัวข้อนี้เราจะมายกตัวอย่างการทำงานของ Uptick ให้เหล่าเทรดเดอร์เห็นภาพได้อย่างชัดเจนกันมากขึ้น นั่นก็คือ การกำหนด tick ขั้นต่ำสำหรับหุ้นที่ซื้อขายในราคาที่สูงกว่า 1 ดอลลาร์คือ 1 เซนต์ และถ้าหากหุ้นเพิ่มขึ้นจาก $9 เป็น $9.01 ก็จะถือว่าเป็นการ uptick แต่ในทางกลับกัน ถ้าหุ้นลดลงจาก $9 เป็น $8.99 ก็จะถือว่าเป็นการ downtick
หุ้นจะสามารถเกิด uptick ได้ ถ้าหากมีนักลงทุนเข้ามาซื้อเพิ่ม (แบบพอสมควร) ยกตัวอย่างเช่น หุ้นที่ซื้อขายกันที่ราคา $9/$9.01 หากผู้ขายเลือกที่จะขายที่ราคา $9 มากกว่าที่จะถือหุ้นไว้ ราคาของหุ้นอาจลดลงได้หากนักลงทุนมีแนวโน้มมองหุ้นในแง่ลบ ผู้ซื้อก็อาจรอจนกว่าราคาจะลดลงมากขึ้นแล้วปรับราคาซื้อของตนลงก็ได้
การขายนี้ อาจทำให้หุ้นลดลงไปถึง $8.80 และหากแรงขายลดลง ผู้ซื้ออาจเริ่มเสนอราคาซื้อที่ $8.81 และถ้าหากมีการซื้อขายที่ $8.81 จะถือว่าเป็นการ uptick นั่นเอง
เป้าหมายของกฎ Uptick คือเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ขายชอร์ตกดดันราคาหุ้นที่กำลังลดลง โดยการขายชอร์ตหุ้นที่กำลังสูญเสียมูลค่า
ทำไมถึงได้มีการนำ Uptick กลับมา?
เมื่อเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจใด ๆ ขึ้นมา สังคมก็มักมองหาผู้ที่ต้องออกมารับผิดชอบในเรื่องนี้ ซึ่งในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) ผู้ขายชอร์ต ได้ถูกมองว่าเป็นคนร้าย ที่ได้กำไรจากการลดลงของราคาหุ้น ทำให้สภาคองเกรสของสหรัฐฯ มีการออกกฎหมายพิจารณาทำให้การขายชอร์ตเป็นสิ่งผิดกฎหมายในปี 1932 โดยกล่าวหาว่าผู้ขายชอร์ตทำการแทรกแซงตลาด และทำให้เกิดการล่มสลายของตลาดนั่นเอง
สรุป
ถ้าเปรียบตลาดการลงทุนเป็นการถ่วงดุลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย การที่ฝั่งผู้ขายชอร์ตถูก “จำกัด” ไม่ให้ขายเร็ว ๆ ได้ ก็อาจทำให้ตลาดเอียงไปทางฝั่งผู้ซื้อ และเพื่อทำให้ราคาเสถียรภาพ จึงทำให้กฎ Uptick เกิดขึ้นมา ในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา กฎ Uptick ถูกบังคับใช้โดย คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เพื่อหวังสร้างสมดุลให้กับตลาดการลงทุน
SOURCE :