การเทรดด้วยระบบอัตโนมัติหรือ Expert Advisor (EA) ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในหมู่นักเทรดทั่วโลก โดยเฉพาะในแพลตฟอร์ม MetaTrader ที่มีทั้ง MT4 และ MT5 อย่างไรก็ตาม แม้ MT4 จะยังคงได้รับความนิยมสูง แต่ MT5 ได้รับการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญจนทำให้การใช้งาน EA บน MT5 เหนือกว่าในหลายๆ ด้าน สำหรับนักเทรดที่มุ่งหวังประสิทธิภาพ ความเสถียร และความสามารถขั้นสูงในการวิเคราะห์ตลาด ระบบ EA บน MT5 จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีกว่าอย่างชัดเจน
1. รองรับระบบหลายเธรด (Multi-threaded Architecture)
MT5 ถูกออกแบบมาให้รองรับระบบการประมวลผลแบบหลายเธรด ซึ่งหมายความว่า EA ที่รันอยู่จะสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ถูกจำกัดโดยกระบวนการเดียวเหมือน MT4 ที่ใช้ระบบแบบ single-thread ทำให้การทำงานของ EA บน MT4 อาจช้าหรือค้างเมื่อมีการประมวลผลจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อมีหลายอินดิเคเตอร์หรือหลายออเดอร์ที่ต้องจัดการพร้อมกัน
2. ภาษาโปรแกรม MQL5 ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น
EA บน MT5 ใช้ภาษา MQL5 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่พัฒนาต่อจาก MQL4 ของ MT4 โดย MQL5 มีความสามารถในการเขียนโปรแกรมที่ยืดหยุ่นกว่า รองรับการทำงานแบบเชิงวัตถุ (OOP – Object Oriented Programming) และมีคำสั่งในการเข้าถึงข้อมูลระดับลึก เช่น คำสั่งจัดการคำสั่งซื้อขายที่แม่นยำ การดึงข้อมูล Timeframe ได้หลากหลายในเวลาเดียวกัน และการเรียกใช้ข้อมูลย้อนหลังได้อย่างครอบคลุม ส่งผลให้การเขียน EA มีความซับซ้อนและฉลาดขึ้นได้มากกว่าที่ MQL4 รองรับ
3. ระบบทดสอบกลยุทธ์ขั้นสูง (Strategy Tester)
MT5 มีระบบ Strategy Tester ที่สามารถรันการทดสอบ EA แบบ Multi-Currency และ Multi-Thread ได้ หมายความว่า EA บน MT5 สามารถทดสอบได้พร้อมกันหลายคู่เงิน และสามารถเลือกโหมดการทดสอบแบบ Real Tick, Forward Testing หรือ Optimization ได้ละเอียดกว่ามาก ในขณะที่ MT4 สามารถทดสอบได้แค่ 1 คู่เงิน และการ Optimization มีข้อจำกัดมากกว่า MT5 มาก
4. การจัดการคำสั่งซื้อขายที่ยืดหยุ่นและแม่นยำ
MT5 รองรับระบบ Market Depth และระบบ Order Management ที่หลากหลายกว่า MT4 เช่น รองรับ Pending Order แบบ Buy Stop Limit และ Sell Stop Limit ซึ่งไม่มีใน MT4 รวมถึงการจัดการออเดอร์แบบแยกกัน (Order-based) แทนที่จะรวมกัน (Position-based) เหมือน MT4 ช่วยให้นักพัฒนา EA สามารถเขียนคำสั่งที่เฉพาะเจาะจงและควบคุมความเสี่ยงได้ดีกว่า
5. การเข้าถึงข้อมูลราคาหลาย Timeframe ได้ในเวลาเดียวกัน
MT5 สามารถให้ EA ดึงข้อมูลราคาจากหลาย Timeframe ได้พร้อมกันโดยไม่ต้องสลับกราฟ ช่วยให้นักพัฒนาเขียนกลยุทธ์ที่อิงกับหลาย Timeframe เช่น M15, H1 และ D1 ไปพร้อมๆ กันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่างจาก MT4 ที่มีข้อจำกัดในจุดนี้มาก
6. ความเสถียรและอัปเดตในระยะยาว
MetaQuotes ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม ได้เน้นการพัฒนา MT5 เป็นหลักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้มีการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ MT4 เริ่มถูกลดการซัพพอร์ตไปเรื่อยๆ สำหรับผู้ใช้งาน EA ที่ต้องการความมั่นใจในระยะยาว MT5 คือคำตอบที่ดีกว่าอย่างชัดเจน
สรุป
แม้ว่า MT4 จะยังคงเป็นที่นิยมโดยเฉพาะในกลุ่มเทรดเดอร์รุ่นเก่า แต่เมื่อพิจารณาจากประสิทธิภาพทางเทคนิค ความสามารถในการเขียนโค้ดที่ล้ำหน้า และเครื่องมือสำหรับการพัฒนา EA ที่ครบครัน MT5 จึงเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะกับการใช้งาน EA ในยุคใหม่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด นักพัฒนาที่ต้องการความยืดหยุ่นและพลังของระบบเทรดอัตโนมัติควรพิจารณาย้ายมาใช้งาน MT5 เพื่อการสร้างระบบเทรดที่มีคุณภาพสูงและตอบโจทย์ตลาดในระยะยาว.