Highlight

  • Liquidity Grab คือกลยุทธ์ที่ใช้โดยรายใหญ่ในตลาดเพื่อเพิ่ม “สภาพคล่อง” ในการเปิดออเดอร์เช่น การกวาด SL ของเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ให้สามารถออกไม่ใหญ่ๆได้
  • Liquidity Grab คือการเบรกที่มีราคากลับตัวเร็วเพื่อดึงสภาพคล่องจากเทรดเดอร์ที่ตั้ง SL ไว้ ส่วนBreakout จริง คือการเคลื่อนไหวที่มี Volume รองรับและราคาจะเคลื่อนไปในทิศทางอย่างต่อเนื่อง
  • เทคนิคการเทรดด้วย Liquidity Grab ให้ดีใช้ FVG เพื่อหาช่องว่างราคาที่ที่จะกลับมาทดสอบ และใช้ OB เพื่อหาจุดที่เข้าเทรดที่แม่นยำ
  • จุดที่เทรดเดอร์มือใหม่พลาดกันบ่อยหลักๆก็คือ รีบเข้าเทรดเกินไป ควรที่จะรอจังหวะเช็กหลาย Timeframe และอย่าลืมวาง SL ให้ห่าง Zone สำคัญ

Liquidity Grab คืออะไร ทำไมถึงควรรู้จักไว้ก่อนเทรด?

Liquidity Grab คือการเก็บสภาพคล่องเพื่อให้รายใหญ่เข้าออเดอร์ได้

  • Liquidity Grab คือกลยุทธ์ที่ใช้โดยรายใหญ่ในตลาดเพื่อเพิ่ม สภาพคล่อง สำหรับการเปิดออเดอร์ขนาดใหญ่ เนื่องจากการที่รายใหญ่จะทำการซื้อหรือขายทันทีอาจจะทำไม่ได้ เพราะตลาดไม่มีสภาพคล่องเพียงพอในการรองรับออเดอร์ขนาดใหญ่
  • รายใหญ่ที่ต้องการเปิดออเดอร์จะใช้ กลยุทธ์การหลอกล่อ หรือที่เรียกว่า “Inducement” เพื่อดึงดูดเทรดเดอร์ให้เข้าออเดอร์ผิดจังหวะ เพื่อไปกวาดจุด SL ส่วนใหญ่ของเทรดเดอร์
  • สรุปให้เข้าใจง่ายๆ Liquidity Grab คือ “กับดัก” ที่เทรดเดอร์ไม่ควรมองข้าม
  • ทำไมถึงเรียกว่า Liquidity Grab?
    • เพราะมันคือการไป “เก็บสภาพคล่อง” (Liquidity) สภาพคล่องในตลาดมักซ่อนอยู่บริเวณที่คนชอบตั้ง Stop Loss เช่น บริเวณเหนือ High หรือใต้ Low เดิมเมื่อราคาทะลุไปถึงตรงนั้น กราฟไม่ได้จะไปต่อแต่แค่มา “เก็บเหยื่อ” จากนั้นค่อยกลับตัว!
  • เมื่อไหร่ที่ Liquidity Grab เกิดขึ้น?
    • มีข่าวใหญ่กำลังจะออก (เช่น Non-farm, CPI, FOMC)
    • ตลาดนิ่งมานานแล้วเริ่มมีแรงพุ่งแบบรวดเร็ว
    • เทรดเดอร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ราคาไปทางเดียวกันมากเกินไป
    • เพราะช่วงแบบนี้เทรดเดอร์จะตั้ง SL ไว้เป็นจำนวนมาก และตลาดก็เห็นว่าตรงไหนน่าไปเก็บ

สัญญาณเตือนว่า “ตรงนี้แหละ Liquidity Grab มาแน่!”

  • ราคาเบรก High/Low เดิม หรือ Breakout แบบแรงๆ แล้วมี Pin Bar หรือ Doji เกิดขึ้นหลังจากการเบรก (คือแท่งเทียนที่มีไส้ยาวๆ) ระวังให้ดีเพราะมีโอกาสสูงมากที่มันจะกลับตัวกลับมาหลังจากการเบรก
  • ราคาไม่ไปไหนตามที่คาดไว้ เช่น ข่าวที่ออกมาดีมากแต่อยู่ดีๆ ราคากลับไม่ไปไหน มันอาจจะเป็นการหยุดทิ้งไว้ให้เป็นกับดัก
  • กราฟเหวี่ยงรุนแรง: หากราคาวิ่งเร็วเกินไปในทิศทางที่ผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของ Liquidity Grab เพื่อหลอกเทรดเดอร์มือใหม่

Liquidity Grab VS Breakout แยกยังไงให้ไม่ตกหลุมพราง?

Breakout

การ Breakout คือราคาขึ้นไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่กลับตัวลงมา

  • Volume รองรับ: เมื่อราคาเบรกผ่านจุดสำคัญแล้ว เราจะเห็น Volume (ปริมาณการซื้อขาย) ที่คอยสนับสนุนการเคลื่อนไหวนี้ ทำให้การเคลื่อนไหวของราคามีทิศทางที่ชัดเจน
  • ราคาขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง: พอมันเบรกขึ้นไปกราฟจะค่อยๆขึ้นต่อไปในทิศทางเดียวมีการเบรก High/Low เรียกได้ว่าไม่หยุดง่ายๆ

Liquidity Grab

Liquidity Grab คือการเบรกจุดสำคัญก่อนที่จะกลับตัวและกิน SL ของเทรดเดอร์ส่วนใหญ่

  • เบรกแรงๆ แต่กลับตัวเร็ว: Liquidity Grab จะดูเหมือนว่าราคามันเบรกผ่านแนวสำคัญไปแล้ว แต่จริงๆ มันแค่ลากราคาขึ้นไปก่อนแล้ว “ดึงกลับ” อย่างเร็ว
  • หลอกให้เข้าออเดอร์ผิดทาง: หลายครั้งที่ราคามีการเบรกไปเหนือหรือใต้แนวรับ/แนวต้าน แต่ทันทีที่คนเริ่มเปิดออเดอร์ตาม กราฟจะพลิกกลับลงมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ Stop Loss ของเราโดนกินนั่นเอง
  • จุดสำคัญ: หากเห็นการเบรกแล้วราคา กลับตัวเร็ว หรือ ลากไปไกลแล้วดึงกลับ ให้สังเกตให้ดี มันอาจจะเป็น Liquidity Grab ที่กำลังจะเกิดขึ้น

เทคนิคเทรดด้วย Liquidity Grab

1. Fair Value Gap (FVG) + Liquidity Grab

ถ้าราคามีการ Liquidity Grab และราคามีการทำ FVG จะเป็นตัวช่วยยืนยันจุดเข้าเทรดที่แม่นยำมากขึ้น

  • Fair Value Gap(FVG): มักเกิดตอนที่ราคาวิ่งแรงๆ เช่น หลังข่าว หรือการเบรกแนวสำคัญ โครงสร้างของ FVG มีอยู่ 3 แท่งเทียน โดยที่ไส้ของแท่งเทียนไม่เชื่อมกับแท่งกลางและเกิดเป็นช่องว่าง
  • ใช้ FVG ยังไงกับ Liquidity Grab?
    • หากราคาเกิด Liquidity Grab และ กลับมาทดสอบ FVG จุดนี้จะเป็นโอกาสดีในการเข้าเทรดเพราะจะเป็นการยืนยันว่าราคาอาจจะกลับไปยังทิศทางเดิมก่อนที่จะวิ่งต่อ
    • สถาบันต่างๆ มักจะใช้การทดสอบ FVG เป็นจุดเข้าออเดอร์เพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุดก่อนการเคลื่อนไหวหลัก
  • ทริคเพิ่มเติม
    • Liquidity Grab แล้วกลับมาแตะ FVG เพื่อยืนยันว่าการกลับตัวนั้นเป็นการยืนยันที่ถูกต้อง
    • หากเห็นการ Rejection หรือ Pinbar ที่เกิดขึ้นหลังจากราคากลับมาทดสอบ FVG นี่คือสัญญาณที่ดีสำหรับการเข้าเทรดที่แม่นยำ

2. Order Block (OB) + Liquidity Grab

Liquidity Grab จะถึงราคามาทดสอบที่จุด Order Block ก่อนที่จะกลับตัว

  • Order Block (OB): คือบริเวณที่ราคาสะสมแรง (consolidate) ก่อนเกิดการเคลื่อนที่แรงโดยเฉพาะแท่งสุดท้ายก่อนเบรกนั่นเอง
  • ใช้ Order Block ยังไงกับ Liquidity Grab?
    • Liquidity Grab มักจะดึงราคากลับไปทดสอบ OB ก่อนที่จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางหลัก ซึ่งเป็นการทดสอบจุดที่ราคามักสะสมแรงไว้
    • หาก OB อยู่ใกล้ แนวรับ หรือ แนวต้าน การกลับไปที่ OB จะเพิ่มโอกาส Rejection สูง เพราะมันเป็นจุดที่ราคามักจะรีบาวด์หรือสะท้อนกลับจากการสะสมแรง
  • ทริคเพิ่มเติม
    • ควรมองหา OB ใน Timeframe ที่ใหญ่กว่า เช่น H1 หรือ H4 เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเข้าเทรด
    • สำหรับการตั้ง Stop Loss ควรวางไว้ เลย OB ออกไป เพื่อกันการผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่ราคาทดสอบ OB

จุดที่เทรดเดอร์มือใหม่มักพลาดบ่อย

  1. รีบเข้าไม้ทันทีที่เห็นราคา Breakout

“เห็นราคาเบรกแนวต้านปุ๊บรีบ Buy ทันที ผ่านไป 5 นาทีโดนลากลงมาทั้งไม้”

  • Liquidity Grab มันเกิดขึ้นเพราะ “คนส่วนใหญ่รีบเข้า”
  • มือโปรจะรอให้ “ราคากลับเข้ามาในกรอบเดิม” หรือมี แท่งเทียนกลับตัว ก่อนค่อยเข้าไม้
  • ถ้าใจร้อน = ติดกับตลาด
  1. วาง Stop Loss ใกล้เกินไป

“ตั้ง SL ห่างจากแนวต้าน 10 pips โดนปาดทิ้งเรียบ”

  • ตลาดรู้ว่า SL ส่วนใหญ่ซ่อนตรงไหน
  • วาง SL “เลย OB หรือ Zone สำคัญ” ออกไปอีกหน่อย เพื่อกันราคาผันผวน
  1. ไม่ดู Timeframe ใหญ่ประกอบ
    • ถ้าเทรดสวนเทรนด์ใหญ่ โอกาสพังจะสูงกว่า
    • TF ใหญ่ช่วยกรอง “Fake Grab” ออกไปได้เยอะมากๆ
    • ก่อนเทรดทุกครั้งต้องเช็ค TF ใหญ่ก่อนว่าราคาอยู่ตรงไหนของแนวโน้มใหญ่

Indicator Liquidity Grab ใน Tradingview

เทรดเดอร์สามารถค้นหา Indicator ใน TradingView โดยการพิมพ์คำว่า “Liquidity Grab”

ใน TradingView เทรดเดอร์สามารถใช้งาน Indicator เพื่อเช็ก Liquidity Grab ได้โดยการ

  1. คลิกที่ “Indicators”
  2. พิมพ์ว่า “Liquidity Grab”
  3. Indicator ที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่นิยมเช่น
    • Liquidity Grabs | fluxchart – ผู้ใช้งาน 2.1K

บทสรุปสำหรับ Liquidity Grab

Liquidity Grab คือการเคลื่อนไหวของราคาที่ดูเหมือนจะเบรกแนวรับหรือแนวต้านแต่กลับพลิกกลับเร็วเพื่อดึงสภาพคล่องจากเทรดเดอร์ที่ตั้ง Stop Loss หรือเปิดออเดอร์ผิดจังหวะ มักเกิดเมื่อราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและอาจทำให้เทรดเดอร์หลงทาง การใช้ FVG และ OB ร่วมกับ Liquidity Grab ช่วยให้เห็นจุดที่ราคาจะกลับตัวจากการดึงสภาพคล่องทำให้เข้าออเดอร์ได้แม่นยำมากขึ้น

แหล่งข้อมูลอ้างอิง